คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6509/2547

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นสมาชิกบัตรเครดิตของโจทก์ได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้อันเนื่องมาจากการใช้บัตรเครดิตต่อโจทก์ ซึ่งจำเลยผ่อนชำระหนี้ดังกล่าวแก่โจทก์บางส่วนแล้วผิดนัดไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน ดังนี้ แม้ตามสำเนาใบสมัครสมาชิกบัตรเครดิตระบุว่า สถานที่รับบัตรและส่งใบเรียกเก็บเงินคือบ้านจำเลยซึ่งอยู่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นสถานที่มูลคดีเกิด แต่ในคดีแต่ละคดี มูลคดีอาจเกิดขึ้นได้หลายแห่ง หลังจากจำเลยผิดสัญญาใช้บัตรเครดิตเป็นหนี้จำนวนหนึ่ง โจทก์จำเลยได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ซึ่งแม้ว่าไม่ลบล้างหนี้เดิมหรือเกิดหนี้ใหม่ แต่หนังสือรับสภาพหนี้เป็นนิติกรรมอันชอบด้วยกฎหมายมีผลผูกพันคู่สัญญา จึงถือได้ว่าสถานที่ทำหนังสือรับสภาพหนี้เป็นสถานที่เกิดมูลคดีอีกแห่งหนึ่ง เมื่อหนังสือรับสภาพหนี้ทำที่สำนักงานใหญ่ของธนาคารโจทก์ซึ่งอยู่ในเขตอำนาจศาลชั้นต้น (ศาลแขวงพระโขนง) อีกทั้งโจทก์ฟ้องขอบังคับตามหนังสือรับสภาพหนี้และแนบสำเนาหนังสือมาท้ายฟ้องอันเป็นส่วนหนึ่งของคำฟ้อง การที่โจทก์ยื่นฟ้องต่อศาลชั้นต้น (ศาลแขวงพระโขนง) จึงชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 4 (1)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นหนี้อันเนื่องจากการใช้บัตรเครดิตเป็นเงิน 67,818.18 บาท แต่จำเลยผิดนัดไม่ชำระขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 81,747.97 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 17 ต่อปี ของต้นเงิน 62,818.18 บาท นับถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องแล้ว เห็นว่า มูลคดีและภูมิลำเนาของจำเลยมิได้อยู่ในเขตศาลชั้นต้น จึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้อง คืนค่าขึ้นศาลทั้งหมดแก่โจทก์
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้ศาลชั้นต้นมิได้สั่งอนุญาตให้โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา แต่การที่จำเลยได้รับสำเนาคำร้องแล้วไม่คัดค้านและศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปยังศาลฎีกา พอแปลได้ว่าศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์อุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 223 ทวิ วรรคหนึ่ง แล้ว มีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า โจทก์ชอบที่จะเสนอคำฟ้องของโจทก์ต่อศาลชั้นต้นได้หรือไม่ เห็นว่า คำว่า มูลคดี หมายถึงต้นเหตุอันเป็นที่มาแห่งการโต้แย้งสิทธิอันจะทำให้โจทก์เกิดอำนาจฟ้อง เมื่อพิจารณาสำเนาใบสมัครสมาชิกบัตรเครดิตเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 5 ที่ระบุว่า สถานที่รับบัตรและส่งใบเรียกเก็บเงินคือที่บ้านของจำเลยซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ส่วนการอนุมัติการออกบัตรเครดิตแม้จะกระทำที่สำนักงานใหญ่ของโจทก์ดังที่โจทก์อุทธรณ์ ก็เป็นเพียงขั้นตอนปฏิบัติของโจทก์เท่านั้น เมื่อจำเลยรับบัตรเครดิตที่บ้านของจำเลยอันเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่จำเลยจะสามารถนำบัตรเครดิตของโจทก์ไปใช้แทนการชำระค่าสินค้า ค่าบริการตลอดจนเบิกถอนเงินสดจนเป็นเหตุพิพาทซึ่งเป็นที่มาแห่งการโต้แย้งสิทธิและมูลหนี้ตามฟ้อง หากปราศจากเหตุและขั้นตอนสุดท้ายดังกล่าวเสียแล้ว โจทก์จำเลยย่อมไม่มีนิติสัมพันธ์เกี่ยวกับบัตรเครดิตหรือสินเชื่อต่อกัน มูลคดีจึงมิได้เกิดขึ้นในเขตศาลชั้นต้น ส่วนกรณีที่จำเลยทำหนังสือรับสภาพหนี้กับโจทก์ในมูลหนี้อันเกิดจากการใช้บัตรเครดิตดังกล่าวที่สำนักงานใหญ่ของโจทก์ ก็ไม่มีเหตุผลเปลี่ยนแปลงศาลที่มีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแต่อย่างใด เพราะการรับสภาพหนี้ไม่ทำให้มูลหนี้ดังกล่าวเปลี่ยนแปลงหรือทำให้มูลหนี้เดิมระงับสิ้นไปเกิดเป็นมูลหนี้ใหม่ คงมีผลเพียงทำให้อายุความสะดุดหยุดลงเท่านั้น สถานที่ที่ทำหนังสือรับสภาพหนี้ จึงมิใช่สถานที่ที่มูลคดีเกิด ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฟ้องของโจทก์จึงชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นนี้ให้เป็นพับ.

Share