คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 660/2545

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

วันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมเป็นพยานบุคคล 1 อันดับ กับพยานเอกสาร1 อันดับ คือเอกสารข้อมูลแสดงราคาตลาดโลกของสินค้าประเภทต่าง ๆ เช่น ราคาสินค้ากากถั่วเหลืองในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เอกสารดังกล่าวอยู่ในความครอบครองของสำนักงานกระทรวงเกษตรประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและโจทก์ไม่ทราบมาก่อนว่าเอกสารดังกล่าวได้มีอยู่เป็นพยานหลักฐานที่จะทำให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งประเด็นเป็นไปโดยเที่ยงธรรม ส่วนพยานบุคคลก็เป็นพยานหลักฐานที่จะนำมาสืบประกอบเอกสารดังกล่าว จึงมีเหตุสมควรอนุญาตให้โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการประเมินอากรขาเข้าของจำเลยและให้จำเลยคืนเงินจำนวน 2,255,056 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2542 เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะอนุมัติให้จ่ายเงินคืนแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า ราคาสินค้าที่โจทก์สำแดงไว้ต่ำกว่าราคาอันแท้จริงในท้องตลาด พนักงานเจ้าหน้าที่ของจำเลยจึงประเมินอากรขาเข้าโดยยึดถือราคาตามประกาศสำนักมาตรฐานศุลกากรซึ่งอธิบดีกรมศุลกากรมีคำสั่งให้จัดทำขึ้นโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 การประเมินอากรขาเข้าในราคาเมตริกตันละ 357.17 เหรียญสหรัฐ จึงชอบแล้วขอให้ยกฟ้อง

ระหว่างสืบพยานโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ 7 ธันวาคม2543 ขอยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติม ศาลภาษีอากรกลางพิจารณาแล้วคำสั่งยกคำร้อง

ศาลภาษีอากรกลางพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว เห็นควรวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งของโจทก์ที่ขอให้ศาลอนุญาตให้โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมเสียก่อน ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2543 ซึ่งเป็นวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องฉบับลงวันที่ดังกล่าวขอยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมเป็นพยานบุคคล 1 อันดับ คือนายศักดิ์ชัยปรีชาจารย์ กับพยานเอกสาร 1 อันดับ คือ เอกสารข้อมูลแสดงราคาตลาดโลกของสินค้าประเภทต่าง ๆ เช่นราคาสินค้ากากถั่วเหลืองในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เห็นว่า เอกสารดังกล่าวอยู่ในความครอบครองของสำนักงานกระทรวงเกษตรประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกและโจทก์ไม่ทราบมาก่อนว่าเอกสารดังกล่าวได้มีอยู่ เป็นพยานหลักฐานที่จะทำให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งประเด็นเป็นไปโดยเที่ยงธรรม ส่วนพยานบุคคลเชื่อว่าโจทก์จะนำมาสืบประกอบเอกสารดังกล่าวจึงมีเหตุสมควรอนุญาตให้โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมได้ ที่ศาลภาษีอากรกลางไม่อนุญาตให้โจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมและมีคำพิพากษามานั้นไม่ชอบอุทธรณ์ของโจทก์ข้อนี้ฟังขึ้น ไม่จำต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ข้ออื่นเพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลง”

พิพากษายกคำสั่งศาลภาษีอากรกลางฉบับลงวันที่ 7ธันวาคม 2543 ที่สั่งยกคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมของโจทก์ และยกคำพิพากษาศาลภาษีอากรกลาง ให้รับบัญชีระบุพยานเพิ่มเติมของโจทก์ฉบับลงวันที่ 7 ธันวาคม 2543 ให้ศาลภาษีอากรกลางสืบพยานโจทก์ดังกล่าวแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share