คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 660/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร ในระหว่างวันที่ 26 – 27 มิถุนายน,แต่พยานโจทก์ทุก คนเบิกความว่า การกระทำผิดเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 11,12 มิถุนายน ดังนี้ ถือว่าข้อเท็จจริงที่ได้ความตามทางพิจารณา ต่างกับฟ้องต้องพิพากษายกฟ้อง.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลย ฐานลักทรัพย์หรือรับของโจร
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว เห็นว่า พยานเบิกความถึงวันเกิดเหตุ ต่างกับฟ้อง จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์,
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์ส่งคำให้การชั้นสอบสวนพยานโจทก์ ทุกคนต่อศาล คำให้การชั้นสอบสวนลงวันที่ ๒๗, ๒๘, ๒๙ มิถุนายน ทั้งนี้ ไม่น่าเชื่อว่าพนักงานสอบสวนจะเขียนวันผิดไปตั้ง ๑๔ – ๑๕ วัน ศาลอุทธรณ์เชื่อว่าพยานโจทก์เบิกความ อ้างข้างแรมผิด เป็นข้างขึ้น ไม่ควรวินิจฉัยตามความเข้าใจผิดของพยานอันผิดกับความจริงไป จึงพิพากษาให้ยกคำพิ พากษาศาลชั้นต้น ให้สืบพยานแล้วพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกา,
ศาลฎีกาเห็นว่า เมื่อพยานโจทก์ทุกคนเบิกความว่า การกระทำผิดรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อระหว่างวันที่ ๑๑, ๑๒ มิถุนายน โจทก์ ก็ไม่มีพยานหลักฐานอันใดที่จะแสดงว่า จำเลยได้กระทำผิดในระหว่างวันที่ ๒๖, ๒๗ มิถุนายน ดังฟ้องโจทก์คำให้การชั้น สอบสวน จะรับฟังได้แต่เพียงเป็นพยานประกอบคำเบิกความของพยานในศาล ศาลจะไม่ฟังพยานโจทก์ ที่เบิกความต่อ ศาลกลับไปเอาคำพยานชั้นสอบสวนมาฟังลงโทษจำเลยนั้นหาได้ไม่
จึงพิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.

Share