คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5515/2540

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำสั่งของผู้ร้องซึ่งเป็นนายจ้างที่ให้ผู้คัดค้าน ซึ่งเป็นกรรมการลูกจ้างไปทำความสะอาดแคร่หรือทางรถเทรลเลอร์ครั้งละ 1 วัน เป็นคำสั่งที่ผู้ร้องใช้ปฏิบัติตามประเพณี ของทางแผนกขนส่งของผู้ร้องในกรณีที่พนักงานขับรถของผู้ร้องไปเกิดอุบัติเหตุในขณะปฏิบัติงานในหน้าที่ตลอดมาและพนักงานอื่นของผู้ร้องที่เป็นพนักงานขับรถก็ยอมรับปฏิบัติตามเช่นนี้ กรณีถือได้ว่าเป็นระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานอย่างหนึ่งของผู้ร้องแม้จะมิได้ระบุเป็นลายลักษณ์อักษรก็ใช้บังคับได้ทั้งตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของผู้ร้องไม่ปรากฏว่าการทำความสะอาดแคร่เป็นการลงโทษทางวินัยของผู้ร้อง การที่ผู้ร้องมอบหมายให้พนักงานขับรถรวมทั้งผู้คัดค้านที่ขับรถไปเกิดอุบัติเหตุ ล้างแคร่หรือหางรถเทรลเลอร์จึงมิใช่เป็นการลงโทษ แต่เป็นการมอบหมายงานเป็นกรณีพิเศษผู้ร้องจึงมีอำนาจที่จะออกคำสั่งมอบหมายงานดังกล่าวได้ซึ่งพนักงานขับรถทุกคนและผู้คัดค้านมีหน้าที่ปฏิบัติตามเมื่อผู้คัดค้านไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ร้องที่ออกโดยชอบผู้ร้องจึงมีสิทธิลงโทษผู้คัดค้านได้

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้คัดค้านเป็นลูกจ้างของผู้ร้องและเป็นกรรมการลูกจ้าง ตำแหน่งพนักงานขับรถเทรลเลอร์ แผนกขนส่งเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2539 ผู้คัดค้านขับรถเทรลเลอร์โดยประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้เบียดชนกับตู้คอนเทนเนอร์ทำให้รถได้รับความเสียหาย หลังเกิดเหตุผู้ร้องได้มีคำสั่งให้ผู้คัดค้านทำความสะอาดแคร่หรือหางรถเทรลเลอร์ ในวันที่ 20 ธันวาคม 2539 และวันที่ 8 มกราคม 2540 แต่ผู้คัดค้านไม่ยอมปฏิบัติตาม การกระทำของผู้คัดค้านที่ขับรถโดยประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้ผู้ร้องได้รับความเสียหาย และขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับการทำงาน หรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของผู้ร้อง ขอศาลอนุญาตให้ผู้ร้องลงโทษผู้คัดค้านโดยการตักเตือนเป็นหนังสือ
ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านว่า ผู้คัดค้านมิได้ขับรถโดยประมาทเลินเล่อ แต่เหตุที่เกิดเป็นอุบัติเหตุและเกิดความเสียหายเล็กน้อยซึ่งผู้ร้องมิได้รับความเสียหายสำหรับคำสั่งให้งดขับรถไม่มีกำหนดและคำสั่งให้ผู้คัดค้านล้างแคร่หรือหางรถเทรลเลอร์นั้นถือเป็นการลงโทษผู้คัดค้านโดยฝ่าฝืนมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 ผู้คัดค้านจึงไม่จำต้องปฏิบัติตามขอให้ยกคำร้อง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า การที่ผู้ร้องให้ผู้คัดค้านไปล้างแคร่หรือหางรถเทรลเลอร์ไม่ถือเป็นการลงโทษผู้คัดค้านเมื่อผู้คัดค้านเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ร้อง จึงมีเหตุให้ผู้ร้องลงโทษผู้คัดค้านด้วยการเตือนเป็นหนังสือได้มีคำสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องลงโทษผู้คัดค้านซึ่งเป็นกรรมการลูกจ้างด้วยการเตือนเป็นหนังสือในเรื่องที่ขับรถประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้ผู้ร้องได้รับความเสียหาย และเรื่องการขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาอันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานหรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายของผู้ร้อง โดยให้คำเตือนมีผลเป็นระยะเวลา 6 เดือน
ผู้คัดค้านอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ข้อที่ผู้คัดค้านอุทธรณ์ว่าการที่ผู้ร้องออกคำสั่งให้ผู้คัดค้านไปล้างแคร่หรือหางรถเทรลเลอร์เป็นคำสั่งลงโทษผู้คัดค้านซึ่งเป็นกรรมการลูกจ้าง เมื่อผู้ร้องมิได้ขออนุญาตต่อศาลแรงงานก่อน จึงเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. 2518 มาตรา 52 ไม่อาจออกคำเตือนได้นั้นเห็นว่า คำสั่งของผู้ร้องตามเอกสารหมาย ร.3 และ ร.6 ที่ให้ผู้คัดค้านไปทำความสะอาดแคร่หรือหางรถเทรลเลอร์ครั้งละ 1 วันดังกล่าว เป็นคำสั่งที่ผู้ร้องใช้ปฏิบัติตามประเพณีของทางแผนกขนส่งของผู้ร้องในกรณีที่พนักงานขับรถของผู้ร้องไปเกิดอุบัติเหตุในขณะปฏิบัติงานในหน้าที่ตลอดมาและพนักงานอื่นของผู้ร้องที่เป็นพนักงานขับรถก็ยอมรับปฏิบัติตามเช่นนี้ กรณีถือได้ว่าเป็นระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานอย่างหนึ่งของผู้ร้องแม้จะมิได้ระบุเป็นลายลักษณ์อักษรก็ใช้บังคับได้ เช่น ตามตัวอย่างของพนักงานขับรถผู้อื่นที่ขับรถเทรลเลอร์แล้วไปเกิดอุบัติเหตุตามเอกสารหมาย ร.4 และ ร.5 และในเอกสารหมาย ร.3 และ ร.6ดังกล่าว ระบุว่า เป็นการมอบหมายงานให้ไปทำความสะอาดแคร่มิใช่เป็นการลงโทษทางวินัยแต่อย่างใด ทั้งตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของผู้ร้องตามเอกสารหมาย ร.7 ข้อ 11 และข้อ 13.2ไม่ปรากฏว่าการทำความสะอาดแคร่เป็นการลงโทษทางวินัยของผู้ร้องเช่นนี้ การที่ผู้ร้องมอบหมายให้พนักงานขับรถรวมทั้งผู้คัดค้านที่ขับรถไปเกิดอุบัติเหตุ ล้างแคร่หรือหางรถเทรลเลอร์จึงมิใช่เป็นการลงโทษ แต่เป็นการมอบหมายงานเป็นกรณีพิเศษ ผู้ร้องจึงมีอำนาจที่จะออกคำสั่งมอบหมายงานดังกล่าวได้ พนักงานขับรถทุกคนและผู้คัดค้านจึงมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม เมื่อผู้คัดค้านไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ร้องที่ออกโดยชอบดังได้วินิจฉัยมาแล้วผู้ร้องจึงมีสิทธิลงโทษผู้คัดค้านได้
พิพากษายืน

Share