แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายเดิมมิได้ถูกยกเลิกไป เพียงแต่ถูกแก้ไขเพิ่มเติมและยังคงเป็นบทบังคับอยู่อย่างเก่าแล้ว แม้โจทก์ฟ้องจะอ้างแต่พระราชบัญญัติและมาตราเดิม ไม่อ้างกฎหมายที่แก้ไขเพิ่มเติมเป็นบทลงโทษด้วยก็ใช้ได้ และถือเป็นหน้าที่ของศาลต้องรู้เองด้วย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจสมคบกับ บุคคลอื่นถูกศาลลงโทษไปแล้ว เล่นการพนันไพ่คอยพนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๑๒ ให้ปรับ ๑๒๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาเห็นว่า พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ มาตรา ๑๒ นี้ เพียงแต่ถูกแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการพนัน (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๐๔ มาตรา ๓ โดยในการแก้ไขเพิ่มเติมนั้น คงบัญญัติว่า การกระทำอันเป็นความผิดตามมาตรา ๑๒ ยังเป็นความผิดอยู่ต่อไปมิได้ยกเลิกไปเสียเลยทีเดียว ฉะนั้น การแก้ไขเพิ่มเติมเช่นนี้จะได้มีมากี่ครั้งก็ตาม ก็ไม่เป็นการยกเลิกบทมาตราที่ถูกแก้ไขมาตรา ๑๒ แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. ๒๔๗๘ ยังคงมีเป็นบทบังคับอยู่เช่นเดิม เพียงแต่ต้องอ่านตามที่แก้ไขใหม่เท่านั้น และเป็นหน้าที่ของศาลต้องรู้เองโดยเหตุนี้การอ้างมาตรา ๑๒ จะอ้างเพียงมาตราเดียวเฉย ๆ โดยไม่อ้างพระราชบัญญัติที่แก้ไขด้วยก็ใช้ได้
พิพากษายืน ให้ยกฎีกาของจำเลย
