คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6566/2562

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

อาวุธปืนของกลางเป็นอาวุธปืนมีทะเบียนจึงไม่ใช่ทรัพย์ที่มีไว้เป็นความผิดที่กฎหมายกำหนดให้ต้องริบเสียทั้งสิ้นตาม ป.อ. มาตรา 32 แต่เป็นทรัพย์ซึ่งจำเลยได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดซึ่งศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจที่จะสั่งให้ริบหรือไม่ริบก็ได้ตามมาตรา 33 (1) คดีนี้ศาลชั้นต้นลงโทษปรับจำเลยสถานเดียว และริบอาวุธปืนของกลาง ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษาแก้เฉพาะให้คืนอาวุธปืนของกลางแก่จำเลยเท่านั้น จึงเป็นการพิพากษาแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218 วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 4, 8 ทวิ, 72 ทวิ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 91, 371, 376 ริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 8 ทวิ วรรคสาม (ที่ถูก 8 ทวิ วรรคสอง), 72 ทวิ วรรคสอง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371, 376 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควรและโดยไม่ได้รับใบอนุญาต (ที่ถูก และฐานพาอาวุธปืนไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อการรื่นเริง) เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ปรับ 4,000 บาท ฐานยิงปืนโดยใช่เหตุ ปรับ 2,000 บาท รวมปรับ 6,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ปรับ 3,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 90 (ที่ถูก มาตรา 30) ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์ขอไม่ให้ริบอาวุธปืนของกลาง
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้คืนอาวุธปืนของกลางแก่จำเลย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์มีเพียงประการเดียวว่า สมควรริบอาวุธปืนของกลางหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นลงโทษปรับจำเลยสถานเดียว รวม 3,000 บาท และริบอาวุธปืนของกลาง ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษาแก้เฉพาะให้คืนอาวุธปืนของกลางแก่จำเลยเท่านั้น จึงเป็นการพิพากษาแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่ง เมื่ออาวุธปืนของกลางเป็นอาวุธปืนมีทะเบียนจึงไม่ใช่ทรัพย์ที่มีไว้เป็นความผิดที่กฎหมายกำหนดให้ต้องริบเสียทั้งสิ้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 แต่เป็นทรัพย์ซึ่งจำเลยได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดซึ่งศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจที่จะสั่งให้ริบหรือไม่ริบก็ได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1) โจทก์ฎีกาขอให้ริบอาวุธปืนของกลางจึงเป็นการฎีกาโต้แย้งดุลพินิจในการมีคำสั่งชี้ขาดของศาลอุทธรณ์ภาค 9 อันเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามบทบัญญัติดังกล่าวข้างต้น แม้ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์ก็เป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกฎีกาโจทก์

Share