คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1141/2498

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยไม่มาให้คัดเลือกเข้ารับราชการทหาร เพราะในวันคัดเลือกนั้นระหว่างทางจำเลยถูกเจ้าพนักงานจับน้ำตาลเมาเพียงเล็กน้อยและต้องถูกควบคุมไว้ และไม่ยอมให้จำเลยมีประกันตัวจนเป็นเหตุให้จำเลยมาให้กรรมการตรวจคัดเลือกไม่ทันตามกำหนดเวลา ดังนี้ย่อมเป็นเหตุสุดวิสัยของจำเลยตาม ม.23(3) แห่ง พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ. 2479

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้รับหมายเรียกให้มาตรวจคัดเลือกเข้ารับราชการทหารในวันที่ ๑๘ เมษายน ๙๖ เวลา ๗.๐๐ น. ณ.วัดโพธิ์ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถึงกำหนดจำเลยหลีกเลี่ยง จำเลยใช้อุบายถือไหสุราแช่ ๑ ไห เข้าไปในตลาดบางจักร ให้เจ้าพนักงานตำรวจจับในข้อหาว่ามีสุราไม่รับอนุญาตเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นจากเป็นทหาร ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๗๙ ม.๒๔,๔๙,๔๕
จำเลยต่อสู้ว่าในวันคัดเลือกระหว่างทางจำเลยได้ซื้อน้ำตาลเมากินที่หลังตลาดบางจักร ส่วนที่เหลือเอาใส่ภาชนะถือมาจะลงเรือก็ถูกจับ จำเลยได้แจ้งต่อพนักงานว่าจะไปคัดเลือกทหารและขอประกันตัว เจ้าพนักงานไม่ยอม ส่งจำเลยไปปรับที่อำเภอวิเศษไชยชาญกว่าจะเสร็จ ๑๖.๐๐ น. เสร็จแล้วจำเลยรีบไปแจ้งต่อพนักงานอำเภอผักไห่ว่าถูกจับ จำเลยไม่มีเจตนาหลีกเลี่ยงและไม่ได้ใช้อุบาย
ศาลชั้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาเป็นข้อ ก.ม. ว่าศาลอุทธรณ์ยกฟ้องโจทก์ไม่ชอบด้วย ก.ม. ม. ๒๓(๓) แห่ง พ.ร.บ.รับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๗๙ จำเลยต้องมีผิด
ศาลฎีกาเห็นว่าศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่า โจทก์นำสืบไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนาหลีกเลี่ยงไม่เข้ารับราชการทหารดังโจทก์ฟ้อง ส่วนการที่จำเลยถูกเจ้าพนักงานจับน้ำตาลเมาเพียงเล็กน้อยและต้องถูกควบคุมตัวจนเป็นเหตุให้จำเลยมาให้กรรมการตรวจคัดเลือกไม่ทันตามกำหนดนั้น ย่อมเป็นเหตุสุดวิสัยตาม ม.๒๓(๓) แห่ง พ.ร.บ. รับราชการทหาร พ.ศ. ๒๔๗๙
พิพากษายืน

Share