คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6547/2546

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทางภาระจำยอมที่โจทก์จะเรียกให้พ้นจากภาระจำยอมได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1394 ทางภาระจำยอมนั้นต้อง ไม่ใช้และใช้ไม่ได้ตามรูปการ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยยังคงใช้ทางเดินภาระจำยอมในที่ดินของโจทก์ผ่านออกไปสู่ทางสาธารณะอยู่ เมื่อปรากฏว่ามีการขัดขวางโดยผู้ขายที่ดินให้โจทก์ปิดกั้นทางภาระจำยอม จำเลยกับพวกก็ใช้สิทธิฟ้องให้ผู้ขายที่ดินดังกล่าวเปิดทางภาระจำยอมนั้น เพื่อให้จำเลยกับพวกได้ใช้ทางภาระจำยอมในที่ดินอันเป็นภารยทรัพย์อยู่ ในที่สุดศาลฎีกาพิพากษาให้ทางพิพาทเป็นทางภาระจำยอมและให้รื้อสิ่งก่อสร้างใด ๆ ที่กระทำลงบนทางภาระจำยอม ขณะนี้คดีอยู่ในระหว่างการบังคับคดีของเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อให้โจทก์เปิดทางภาระจำยอมให้แก่จำเลยกับพวกอันเป็นข้อแสดงว่าจำเลยยังต้องการใช้ทางภาระจำยอมและตามรูปการทางภาระจำยอมนั้นก็สามารถ ใช้ได้อยู่ ฉะนั้นโจทก์จึงหามีสิทธิที่จะเรียกให้ที่ดินภารยทรัพย์พิพาทพ้นจากภาระจำยอมตามมาตรา 1394 ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ที่ดินโฉนดเลขที่ ๔๘๖๙๑ พ้นจากภาระจำยอมของที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๒๗๕
จำเลยที่ ๑ ถึงที่ ๕ และจำเลยที่ ๗ ถึงที่ ๑๐ ให้การว่า ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๖ ขาดนัดยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลยทั้งสิบ โดยกำหนดค่าทนายความ ๕,๐๐๐ บาท โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน เว้นแต่ค่าทนายความในศาลชั้นต้นให้โจทก์ใช้แทนจำเลยทั้งสิบ ๓,๐๐๐ บาท กับให้โจทก์ ใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ ๑,๕๐๐ บาท แทนจำเลยทั้งสิบด้วย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่ไม่โต้เถียงกันฟังเป็นยุติได้ว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ ๔๘๖๙๑ โดยซื้อมาจากบริษัทเชิงทะเล จำกัด ที่ดินแปลงนี้แบ่งแยกมาจากที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๒๕๑ อันเป็นที่ดินภารยทรัพย์เพื่อประโยชน์แก่ที่ดินสามยทรัพย์ โฉนดเลขที่ ๑๒๗๕ ของจำเลยทั้งสิบ เมื่อปี ๒๕๒๙ บริษัทเชิงทะเล จำกัด ได้รื้อสะพานไม้ทางภาระ จำยอมที่จำเลยทั้งสิบใช้เดินจากบ้านพักออกสู่ทางสาธารณะ ปี ๒๕๓๐ จำเลยที่ ๑ ที่ ๓ ที่ ๔ ที่ ๕ และที่ ๑๐ กับพวก ได้เป็นโจทก์ฟ้องบริษัทเชิงทะเล จำกัด กับพวก ให้เปิดทางภาระจำยอม ครั้นเมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๓๘ ศาลชั้นต้น ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีนั้นซึ่งพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่พิพากษาว่า ทางพิพาทเป็นทางภาระจำยอมเพื่อที่ดินโฉนดเลขที่ ๑๒๗๕ ให้บริษัทเชิงทะเล จำกัด เปิดทางภาระจำยอม แต่การบังคับคดี ยังไม่เสร็จสิ้น
คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า ทางภาระจำยอมพิพาทนั้นไม่ใช้และใช้ไม่ได้ตามรูปการแล้วหรือไม่ และโจทก์จะเรียกร้องให้พ้นจากภาระจำยอมได้หรือไม่ เห็นว่า ทางภาระจำยอมที่โจทก์จะเรียกให้พ้นจากภาระจำยอมได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๙๔ ทางภาระจำยอมนั้นต้องไม่ใช้และใช้ไม่ได้ตามรูปการ ตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏนั้นได้ความว่าจำเลยทั้งสิบยังคงใช้ทางเดินภาระจำยอมในที่ดินของโจทก์เดินผ่านออกไปสู่ ทางสาธารณะอยู่ เมื่อปรากฏว่ามีการขัดขวางโดยบริษัทเชิงทะเล จำกัด ผู้ขายที่ดินให้โจทก์ปิดกั้นทางภาระจำยอม จำเลยกับพวกก็ยังคงใช้สิทธิฟ้องให้บริษัทดังกล่าวเปิดทางภาระจำยอมนั้นเพื่อให้จำเลยกับพวกได้ใช้ทางภาระจำยอมในที่ดินอันเป็นภารยทรัพย์อยู่ จนในที่สุดศาลฎีกาได้พิพากษาให้ทางพิพาทเป็นทางภาระจำยอมและให้รื้อสิ่งก่อสร้างใด ๆ ที่กระทำลงบนทางภาระจำยอม ขณะนี้คดีอยู่ในระหว่างการบังคับคดีของเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อให้โจทก์ เปิดทางภาระจำยอมให้แก่จำเลยกับพวกอันเป็นข้อแสดงว่าจำเลยทั้งสิบยังต้องการใช้ทางภาระจำยอมและตามรูปการทางภาระจำยอมนั้นก็สามารถใช้ได้อยู่ ฉะนั้นโจทก์จึงหามีสิทธิที่จะเรียกให้ที่ดินภารยทรัพย์พิพาทพ้นจากภาระจำยอมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๙๔ ไม่ ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาต้องกันมานั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.

Share