แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การกระทำของจำเลยในความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้าและฐานประกอบกิจการให้เช่าหรือจำหน่ายเทปหรือวัสดุโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นเป็นความผิดต่อกฎหมายคนละฉบับ มีองค์ประกอบแห่งความผิดที่แตกต่างกันทั้งเจตนาในการกระทำความผิดทั้งสองฐานดังกล่าวสามารถแยกต่างหากจากกันได้ จึงเป็นความผิดสองกรรมต่างกัน (วินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา)
การกระทำของจำเลยในความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งวิดีโอซีดีลามก เป็นความผิดต่อกฎหมายต่างฉบับกัน มีองค์ประกอบแห่งความผิดที่แตกต่างกัน ทั้งเจตนาในการกระทำความผิดก็สามารถแยกต่างหากจากกันกับความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้าและฐานประกอบกิจการให้เช่าหรือจำหน่ายเทปหรือวัสดุโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาตได้ จึงเป็นความผิดอีกรรมหนึ่งแยกต่างหากจากความผิดสองฐานดังกล่าว
ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 เป็นความผิดที่มีอัตราโทษอย่างสูงให้จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เมื่อความผิดดังกล่าวศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้ลงโทษจำเลยปรับไม่เกิน 5,000 บาท จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2539 มาตรา 39 (4) (วินิจฉัยโดยมติที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ มาตรา ๔ , ๖ , ๘ , ๑๕ , ๓๐ , ๓๑ , ๖๙ , ๗๐ , ๗๓ , ๗๕ , ๗๖ และ ๗๘ พระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. ๒๕๓๐ มาตรา ๔ , ๖ และ ๓๔ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒ , ๓๓ , ๙๑ และ ๒๘๗ วางโทษปรับจำเลยเป็นสองเท่าของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้ ริบแผ่นซีดีของกลางทั้งหมดโดยให้แผ่นซีดีเพลงจำนวน ๑๐๔ แผ่น แผ่นซีดีรอม (เอ็มพี ๓) จำนวน ๒๔๘ แผ่น และแผ่นวีซีดีคาราโอเกะจำนวน ๑๗๗ แผ่น ของกลางที่ละเมิดลิขสิทธิ์รวมจำนวน ๕๒๙ แผ่น ตกเป็นของผู้เสียหายทั้งสามซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ กับสั่งจ่ายเงินค่าปรับฐานละเมิดลิขสิทธิ์กึ่งหนึ่งให้แก่ผู้เสียหายทั้งสามซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์
จำเลยให้การรับสารภาพและรับว่าเคยต้องโทษและพ้นโทษตามคำฟ้องจริง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิจารณาแล้ว พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ มาตรา ๓๑ (ที่ถูกมาตรา ๓๑(๑)) และ๗๐ วรรคสอง พระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. ๒๕๓๐ มาตรา ๖ วรรคหนึ่ง และ ๓๔ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๗ เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ ความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ ให้วางโทษเป็นสองเท่า จำคุก ๑ ปี และปรับ ๔๐๐,๐๐๐ บาท ความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. ๒๕๓๐ ปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๗ ปรับ ๖,๐๐๐ บาท รวมจำคุก ๑ ปี ปรับ ๔๒๖,๐๐๐ บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๖ เดือน และปรับ ๒๑๓,๐๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙ และ ๓๐ ริบแผ่นซีดีของกลางทั้งหมด (ที่ถูกริบแผ่นวิดีโอซีดีลามกจำนวน ๔ แผ่น) โดยให้แผ่นซีดีเพลง แผ่นซีดีรอม (เอ็มพี ๓) และแผ่นวีซีดีคาราโอเกะจำนวน ๕๒๙ แผ่น ตกเป็นของผู้เสียหายทั้งสามซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ จ่ายค่าปรับที่ได้ชำระตามคำพิพากษาเป็นจำนวนกึ่งหนึ่งของค่าปรับตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ มาตรา ๗๖ แก่ผู้เสียหายทั้งสามซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว วินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยในความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้าและฐานประกอบกิจการให้เช่าหรือจำหน่ายเทปหรือวัสดุโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น เป็นความผิดต่อกฎหมายคนละฉบับ มีองค์ประกอบแห่งความผิดที่แตกต่างกัน ทั้งเจตนาในการกระทำความผิดทั้งสองฐานดังกล่าวสามารถแยกต่างหากจากกันได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดสองกรรมต่างกัน คำพิพากษาฎีกาที่ ๔๕๓๗-๔๕๔๐/๒๕๔๓ (ประชุมใหญ่) ที่จำเลยอ้างมาเป็นเรื่องที่จำเลยในคดีดังกล่าวมีเจตนาเดียวที่จะเสนอจำหน่ายสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมในวันเวลาเดียวกันหรือคราวเดียวกัน เพียงแต่แยกวางเสนอจำหน่ายสินค้าจำนวนดังกล่าวในสถานที่ต่างกันจึงเป็นความผิดกรรมเดียว ข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้ ส่วนความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งวีดีโอซีดีลามก ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ เห็นว่า การกระทำของจำเลยในความผิดฐานนี้เป็นความผิดต่อกฎหมายต่างฉบับกัน มีองค์ประกอบแห่งความผิดที่แตกต่างกัน ทั้งเจตนาในการกระทำความผิดก็สามารถแยกต่างหากจากกันกับความผิดสองฐานแรกได้เช่นกัน การกระทำของจำเลยในความผิดฐานนี้จึงเป็นความผิดอีกกรรมหนึ่ง อุทธรณ์ของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น ส่วนที่จำเลยอุทธรณ์ขอให้กำหนดโทษจำคุกและโทษปรับในสถานเบา กับกำหนดระยะเวลาในการรอการลงโทษจำคุกให้สั้นลงนั้น ในส่วนของความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายและทำให้แพร่หลายซึ่งวิดีโอซีดีภาพยนตร์ลามกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๗ นั้นเป็นความผิดที่มีอัตราโทษอย่างสูงตามที่กฎหมายกำหนดไว้ให้จำคุกไม่เกิน ๓ ปี หรือปรับไม่เกิน ๖,๐๐๐ บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ เมื่อความผิดดังกล่าวศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้ลงโทษจำเลยปรับไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มาตรา ๓๙ (๔) อุทธรณ์ของจำเลยที่ขอให้กำหนดโทษปรับในความผิดฐานนี้สถานเบาอันเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการลงโทษจำเลยของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามอุทธรณ์ตามบทกฎหมายดังกล่าว ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางรับอุทธรณ์ของจำเลยในความผิดฐานนี้มาด้วยนั้นเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้าเมื่อวางเฉพาะโทษปรับเป็นสองเท่าแล้ว จำคุก ๖ เดือน และปรับ ๒๐๐,๐๐๐ บาท ฐานประกอบกิจการให้เช่าหรือจำหน่ายเทปหรือวัสดุโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับ ๑๐,๐๐๐ บาท รวมจำคุก ๖ เดือน และปรับ ๒๑๐,๐๐๐ บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ แล้ว คงจำคุก ๓ เดือน และปรับ ๑๐๕,๐๐๐ บาท เมื่อรวมกับโทษปรับฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งวิดีโอซีดีลามก ๓,๐๐๐ บาท แล้ว เป็นจำคุก ๓ เดือน และปรับ ๑๐๘,๐๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด ๒ ปี ตามเดิม และกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติของจำเลยไว้ โดยให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก ๔ เดือน ต่อครั้ง มีกำหนด ๑ ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง.