แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า รับฎีกาจำเลยทั้งสองเฉพาะข้อ 3 ในประเด็นเรื่องอำนาจฟ้อง และข้อ 4 ในประเด็นค่าเสียหาย นอกนั้นเห็นว่าจำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 ที่แก้ไขแล้ว จึงไม่รับฎีกาจำเลยทั้งสองเฉพาะที่เป็น ฎีกาข้อเท็จจริง
จำเลยทั้งสองเห็นว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้ไขมากและข้อที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 แต่ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ขับไล่จำเลยที่ 1 และบริวารด้วยนั้น เป็นการกลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นอย่างสิ้นเชิง ส่วนฎีกาข้อ 5 ของจำเลยทั้งสองนั้นสอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 1 และเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายซึ่งเกี่ยวกับอำนาจฟ้องของโจทก์ โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสองไว้พิจารณาต่อไปด้วย
หมายเหตุ ไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้วหรือไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 รื้อบ้านเลขที่ 144 หมู่ที่ 13 ตำบลสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมาออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 536 ตำบลสีคิ้ว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา กับให้ใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เดือนละ 300 บาท นับตั้งแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยที่ 2 จะรื้อบ้านออกจาก ที่พิพาท ยกฟ้องโจทก์เกี่ยวกับจำเลยที่ 1
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ขับไล่จำเลยที่ 1พร้อมบริวารออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 536 ตำบลสีคิ้ว อำเภอสีคิ้วจังหวัดนครราชสีมา ด้วย และห้ามเข้าเกี่ยวข้องอีกต่อไป ให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ปีละ 17,000 บาท นับจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยที่ 1 จะออกไปจากที่พิพาท นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาบางข้อดังกล่าว (อันดับ 178)
จำเลยทั้งสองจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 188)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ศาลชั้นต้นตรวจสั่งฎีกาในขณะจำนวนทุนทรัพย์ ที่พิพาทไม่เกินสองแสนบาท บัดนี้มีการคิดจำนวนทุนทรัพย์ ที่พิพาทใหม่ตามคำสั่งศาลฎีกาเป็นจำนวนเกินกว่าสองแสนบาท คดีจึงไม่ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 แล้ว ให้รับฎีกาของจำเลยทั้งสองในข้อเท็จจริงด้วยให้ศาลชั้นต้นดำเนินการต่อไป