คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 652/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ร้องสอดที่เข้ามาเป็นคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(1) และ(3) มีสิทธิเสมือนหนึ่งว่าตนได้ฟ้องหรือถูกฟ้องเป็นคดีเรื่องใหม่ อาจได้รับหรือถูกบังคับให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมได้
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท ผู้ร้องสอดเข้ามาต่อสู้คดีกับโจทก์อ้างว่าที่พิพาทเป็นของผู้ร้องสอด แต่ผู้ร้องสอดนำสืบไม่สม ผู้ร้องสอดจึงต้องรับผิดตามคำพิพากษา เมื่อผู้ร้องสอดเข้ายึดถือที่พิพาทโดยปราศจากสิทธิใด ๆ อันจะพึงอ้างได้โดยชอบด้วยกฎหมายผู้ร้องสอดจึงต้องถูกบังคับให้รื้อถอนไป หาเป็นการบังคับคดีนอกฟ้องหรือเกินคำขอไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าที่ดินโฉนดที่ 177 เป็นของโจทก์และนายไว เทือกทองเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2498 นายซุ่นจุ๊ย แซ่โง้ว ได้ทำสัญญาเช่าที่แปลงนี้บางส่วนทางทิศเหนือเนื้อที่ประมาณ 1 งาน ราคาประมาณ 6,000 บาท เพื่อทำเป็นโรงเก็บรถยนต์ มีกำหนด 10 ปี บัดนี้ครบกำหนด 10 ปีแล้ว โจทก์ได้บอกให้ออกไป นายชุ่นจุ๊ย แซ่โง้ว ไม่ยอมรื้อถอนไป โจทก์จึงได้ฟ้องขับไล่นายซุ่นจุ๊ย แซ่โง้ว เป็นสำนวนหนึ่งแล้ว

นายซุ่นจุ๊ย แซ่โง้ว ได้ให้จำเลยเช่าช่วงทำเป็นสถานที่รำวงและขายเครื่องดื่มโดยโจทก์มิได้ตกลงยินยอมด้วย โจทก์ให้จำเลยขนย้ายออกไป จำเลยไม่ยอมออก โจทก์จึงฟ้องขับไล่จำเลยและบริวารตลอดทั้งเรียกค่าเสียหายด้วย

จำเลยให้การว่า จำเลยได้เช่าอาคารบ้านเลขที่ 215/1 จากนายซุ่นจุ๊ย แซ่โง้ว ได้เปิดเป็นโรงรำวงและจำหน่ายสุราเบียร์ทั้งหลายและน้ำชากาแฟ โดยจำเลยเข้าใจว่าเป็นของนายซุ่นจุ๊ย แซ่โง้ว

จำเลยขอให้เรียกนายซุ่นจุ๊ย แซ่โง้ว ผู้ให้เช่าเข้ามาเป็นคู่ความเพื่อต่อสู้คดีกับโจทก์ ศาลชั้นต้นเห็นพ้องด้วย และนายซุ่นจุ๊ย แซ่โง้ว ก็ไม่คัดค้าน

ต่อมาเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2508 จำเลยแถลงว่าจำเลยได้ออกไปจากที่พิพาทแล้ว ฝ่ายโจทก์ก็แถลงว่าไม่ติดใจเอาค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสอง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องให้ขับไล่ทุกคนที่อยู่ในที่พิพาทออกไป ให้ผู้ร้องสอดรื้อสิ่งปลูกสร้างออกไปด้วย

ผู้ร้องสอดอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องสอดฎีกา

ปัญหาวินิจฉัยที่ผู้ร้องสอดฎีกาว่า การบังคับให้ผู้ร้องสอดรื้อถอนโรงเรือนออกไปจากที่พิพาทเป็นการนอกฟ้องและเกินคำขอนั้นเห็นว่าผู้ร้องสอดได้ร้องเข้ามาต่อสู้คดีกับโจทก์อ้างว่ามีสิทธิในที่พิพาท ผู้ร้องสอดมีโรงเรือนปลูกอยู่ในที่นั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 58 บัญญัติว่า ผู้ร้องสอดที่เข้ามาเป็นคู่ความตาม มาตรา 57(1) และ (3) มีสิทธิเสมือนหนึ่งว่าตนได้ฟ้องหรือถูกฟ้องเป็นคดีเรื่องใหม่ อาจได้รับหรือถูกบังคับให้ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมได้

คดีนี้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่พิพาท ผู้ร้องสอดเข้ามาต่อสู้คดีกับโจทก์อ้างว่าที่พิพาทเป็นของผู้ร้องสอด แต่ผู้ร้องสอดนำสืบไม่สม ผู้ร้องสอดจึงต้องรับผิดตามคำพิพากษาข้อเท็จจริงได้ความว่า ผู้ร้องสอดเข้ามายึดถือที่พิพาทปลูกสร้างโรงเรือนไว้โดยปราศจากสิทธิใด ๆ อันจะพึงอ้างได้โดยชอบด้วยกฎหมายผู้ร้องสอดจึงต้องถูกบังคับให้รื้อถอนไป หาเป็นการบังคับนอกฟ้องหรือเกินคำขอไม่ ฎีกาของผู้ร้องสอดทั้งหมดฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

Share