คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6426/2544

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2541 จำเลยออกเช็คลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2541 มอบให้โจทก์ร่วม แต่วันที่มอบเช็คให้แก่กันมิใช่วันกระทำความผิด จึงมิใช่ข้อสำคัญที่ต้องบรรยายมาในฟ้อง การที่โจทก์บรรยายฟ้องที่เป็นไปไม่ได้เช่นนั้นเนื่องจากโจทก์พิมพ์ฟ้องเกี่ยวกับวันที่จำเลยมอบเช็คให้โจทก์ร่วมผิดพลาด ซึ่งทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยมอบเช็คให้โจทก์ร่วมเมื่อเดือนมีนาคม 2541 การที่โจทก์บรรยายฟ้องผิดพลาดในข้อที่มิใช่สาระสำคัญ ทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้ จึงหาทำให้การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2541 เวลากลางวัน จำเลยออกเช็คธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาบางครุ ลงวันที่ 15 พฤษภาคม2541สั่งจ่ายเงินจำนวน 700,000 บาท มอบให้บริษัทไทยสมบูรณ์การทอ จำกัด ผู้เสียหาย ชำระหนี้ค่าสินค้าผ้ายืด ต่อมาวันที่ 15 พฤษภาคม 2541 เวลากลางวัน ผู้เสียหายนำเช็คไปเรียกเก็บเงิน ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน ทั้งนี้จำเลยออกเช็คฉบับดังกล่าวโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค เหตุเกิดที่ตำบลบางจาก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2534 มาตรา 4

จำเลยให้การปฏิเสธ

ระหว่างพิจารณา บริษัทไทยสมบูรณ์การทอ จำกัด ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาต

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ลงโทษจำคุก 6 เดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง

โจทก์ร่วมฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ร่วมมีว่าตามฟ้องโจทก์เกี่ยวกับวันมอบเช็คพิพาทและวันธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาท แสดงว่าการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดหรือไม่ ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยปัญหาข้อนี้ว่า การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า วันที่ 25 ธันวาคม 2541 เวลากลางวันจำเลยออกเช็คพิพาทลงวันที่ 15 พฤษภาคม 2541 และ ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม2541 เวลากลางวัน เป็นการบรรยายฟ้องว่า วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินซึ่งเป็นวันกระทำความผิดเกิดเป็นวันที่ย้อนหลังจากวันที่จำเลยมอบเช็คพิพาทให้โจทก์ร่วม จึงเป็นไปไม่ได้ที่วันที่กระทำความผิดจะเกิดก่อนวันที่จำเลยมอบเช็คพิพาทให้โจทก์ร่วม การกระทำของจำเลยตามที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องจึงไม่เป็นความผิดนั้น ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่ เห็นว่าวันที่มอบเช็คให้แก่กันมิใช่วันกระทำความผิด จึงมิใช่ข้อสำคัญที่ต้องบรรยายมาในฟ้อง การที่โจทก์บรรยายฟ้องที่เป็นไปไม่ได้เช่นนั้น เห็นได้ชัดว่า โจทก์พิมพ์ฟ้องเกี่ยวกับวันที่จำเลยมอบเช็คพิพาทให้โจทก์ร่วมผิดพลาดซึ่งทางพิจารณาโจทก์และโจทก์ร่วมนำสืบได้ความว่า จำเลยมอบเช็คพิพาทให้โจทก์ร่วมเมื่อเดือนมีนาคม 2541 การที่โจทก์บรรยายฟ้องผิดพลาดในข้อที่มิใช่สาระสำคัญ ทั้งจำเลยมิได้หลงต่อสู้ เพราะจำเลยนำสืบปฏิเสธว่า จำเลยมิได้สั่งซื้อผ้าจากโจทก์ร่วม จำเลยออกเช็คพิพาทให้นางวัชราภรณ์อัคผล ภริยาจำเลยนำไปแลกเงินสด จึงหาทำให้การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดดังที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยไม่ โจทก์บรรยายฟ้องถึงวันออกเช็คพิพาทอันเป็นวันกระทำความผิดและวันธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินอันเป็นวันความผิดเกิด เป็นการบรรยายการกระทำของจำเลยที่เป็นความผิดแล้ว ฎีกาของโจทก์ร่วมฟังขึ้น เนื่องจากศาลอุทธรณ์ภาค 2 ยังมิได้วินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยในปัญหาข้ออื่นสมควรย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยตามลำดับชั้นศาล”

พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2 ให้ศาลอุทธรณ์ภาค 2 วินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยในปัญหาที่ยังมิได้วินิจฉัยแล้วมีคำพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

Share