คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6415/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาชำระเงินค่าธรรมเนียมศาล เนื่องมาจากศาลฎีกามีคำสั่งให้ยก คำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาเสียนั้น มิใช่คำสั่งในเรื่องเกี่ยวเนื่องกับการอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ดำเนินคดี อย่างคนอนาถาในชั้นฎีกา อันจะต้องอุทธรณ์คำสั่งนั้นไปยังศาลฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 156 วรรคท้าย แต่เป็นการสั่งไปตามที่ ป.วิ.พ. มาตรา 23 ให้อำนาจไว้ หากจำเลยไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าว จะต้องอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ ตามมาตรา 223 ที่ศาลชั้นต้นส่งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยมายังศาลฎีกาจึงไม่ชอบ
การขอขยายหรือย่นระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ใน ป.วิ.พ. หรือตามที่ศาลกำหนดไว้หรือระยะเวลาที่เกี่ยวด้วย วิธีพิจารณาความแพ่งอันกำหนดไว้ในกฎหมายอื่นเพื่อให้ดำเนินหรือมิให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ ก่อนสิ้น ระยะเวลานั้น ให้พึงทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษ และศาลได้มีคำสั่งหรือคู่ความมีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลานั้น เว้นแต่ในกรณีมีเหตุสุดวิสัย ตามนัยแห่ง ป.วิ.พ. มาตรา 23
จำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาชำระเงินค่าธรรมเนียมศาลเมื่อสิ้นระยะเวลาที่ศาลฎีกาได้กำหนดไว้เพื่อให้จำเลยชำระเงินค่าธรรมเนียมดังกล่าวแล้ว เมื่อจำเลยฎีกาว่า เหตุที่ไม่ได้ชำระภายในกำหนดเพราะหลงผิดไปว่าศาลชั้นต้นจะแจ้งคิดรายการจำนวนเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องเสียเท่าไรให้จำเลยทราบอีกครึ่งหนึ่งนั้น มิได้เป็นกรณีมีเหตุสุดวิสัยที่จำเลยไม่อาจยื่นคำร้องก่อนสิ้นระยะเวลาที่ศาลกำหนดไว้ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยใช้ค่าเสียหายเป็นเงินจำนวน ๒๒,๘๑๖,๙๓๑.๘๘ บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน ๒,๓๙๔,๖๓๓.๗๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ตามทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดี โดยกำหนดค่าทนายความให้ ๑๐๐,๐๐๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ ๒๐,๐๐๐ บาท แทนโจทก์
จำเลยฎีกา และยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นฎีกา ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่ง ไม่อนุญาต ให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นต่อศาลฎีกา ศาลฎีกามีคำสั่งยืนยันตามคำสั่งศาลชั้นต้น หากจำเลยยังติดใจฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้จำเลยนำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระต่อศาลชั้นต้นภายในกำหนด ๓๐ วัน นับแต่วันทราบคำสั่ง ในวันนัดอ่านคำสั่งศาลฎีกา วันที่ ๓ พฤษภาคม ๒๕๔๓ ผู้รับมอบฉันทะจากทนายโจทก์มาศาล ส่วนจำเลยและทนายจำเลยทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มีผู้ใดมาศาล ศาลชั้นต้นจึงได้อ่านคำสั่งศาลฎีกาให้ฝ่ายโจทก์ฟัง และให้ถือว่าได้อ่านคำสั่งนี้ให้จำเลยฟังโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ต่อมาวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๔๓ ทนายจำเลยยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาชำระเงินค่าธรรมเนียมศาล ศาลชั้นต้น มีคำสั่งว่าศาลชั้นต้นได้แจ้งวันนัดฟังคำสั่งศาลฎีกาให้จำเลยและทนายจำเลยฟังโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ตามคำร้องของทนายจำเลยเป็นเรื่องที่ทนายจำเลยไม่สนใจที่จะฟังคำสั่งศาลฎีกาและคำร้องขอขยายเวลายื่นเข้ามาเมื่อพ้นกำหนดเวลาตามคำสั่งศาลฎีกา ให้ยกคำร้อง ค่าคำร้องให้เป็นพับ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลชั้นต้นส่งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยมายังศาลฎีกาเพื่อพิจารณา
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาชำระเงินค่าธรรมเนียมศาล เนื่องมาจากศาลฎีกามีคำสั่งให้ยกคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาเสียนั้น คำสั่งศาลชั้นต้นในกรณีเช่นนี้มิได้เป็นคำสั่งในเรื่องเกี่ยวเนื่องกับการอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นฎีกา อันจะต้องอุทธรณ์คำสั่งนั้นไปยังศาลฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๑๕๖ วรรคท้าย แต่เป็นการสั่งไปตามที่ ป.วิ.พ. มาตรา ๒๓ ให้อำนาจไว้ หากจำเลยไม่เห็นด้วยกับคำสั่ง ดังกล่าว จะต้องอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๒๓ ที่ศาลชั้นต้นส่งคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยมายังศาลฎีกาจึงไม่ชอบ อย่างไรก็ดี ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยปัญหาที่ว่า มีเหตุอันควรขยายระยะเวลาชำระเงิน ค่าธรรมเนียมศาลให้จำเลยหรือไม่ไปเสียทีเดียวโดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาในปัญหาดังกล่าวนี้ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า การขอขยายหรือย่นระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ใน ป.วิ.พ. หรือตามที่ศาลกำหนดไว้หรือระยะเวลาที่เกี่ยวด้วยวิธีพิจารณาความแพ่งอันกำหนดไว้ในกฎหมายอื่นเพื่อให้ดำเนินหรือมิให้ดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ ก่อนสิ้นระยะเวลานั้น ให้พึงทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษ และศาลได้มีคำสั่งหรือคู่ความ มีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลานั้น เว้นแต่ในกรณีมีเหตุสุดวิสัยทั้งนี้ตามนัยแห่ง ป.วิ.พ. มาตรา ๒๓ คดีนี้จำเลยยื่น คำร้องขอขยายเวลาชำระเงินค่าธรรมเนียมศาลเมื่อสิ้นระยะเวลาที่ศาลฎีกาได้กำหนดไว้เพื่อให้จำเลยชำระเงิน ค่าธรรมเนียมดังกล่าวแล้ว ที่จำเลยฎีกาว่า เหตุที่ไม่ได้ชำระภายในกำหนดเพราะหลงผิดไปว่าศาลชั้นต้นจะแจ้งคิด รายการจำนวนเงินค่าธรรมเนียมที่จะต้องเสียเท่าไรให้จำเลยทราบอีกครั้งหนึ่งนั้น มิได้เป็นกรณีมีเหตุสุดวิสัยที่จำเลยไม่อาจยื่นคำร้องก่อนสิ้นระยะเวลาที่ศาลกำหนดไว้ได้ ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของจำเลยชอบแล้ว คำร้องอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ .

Share