แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
นอกจากโจทก์จะใช้ตึกแถวของโจทก์เป็นที่อยู่อาศัยของภรรยาและบุตรแล้ว โจทก์ยังให้บุตรเขยใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานทนายความด้วยย่อมถือไม่ได้ว่าโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของอยู่เอง หรือให้ผู้แทนอยู่เฝ้ารักษาอันจะได้รับงดเว้นภาษีโรงเรือนและที่ดินตามพระราชบัญญัติ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 มาตรา 10 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน แก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ. 2475 มาตรา 3. การใช้ตึกแถวตั้งสำนักงานทนายความ มีลักษณะเป็นการดำเนินธุรกิจอย่างหนึ่งถือไม่ได้ว่าโจทก์ใช้อยู่เองหรือให้ผู้แทนอยู่เฝ้ารักษาและการตั้งสำนักงานทนายความ แม้ว่าจะไม่ต้องจดทะเบียนการค้าและเสียภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากร ก็ไม่มีผลทำให้หน้าที่การเสียภาษีโรงเรือนและที่ดินสำหรับตึกแถวของโจทก์เปลี่ยนแปลงไป
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการประเมินและคำชี้ขาดคำร้องของดเว้นภาษีโรงเรือนและที่ดินของโจทก์ และให้จำเลยคืนค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์ใช้ตึกแถวพิพาทเป็นสำนักงานทนายความใช้เป็นที่เก็บเครื่องมือในการประกอบกิจการทนายความ มิได้อาศัยอยู่ในตึกแถวเอง จึงไม่ได้รับการงดเว้นภาษีตามกฎหมาย การประเมินและคำชี้ขาดของพนักงานเจ้าหน้าที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้วพระราชบัญญัติ ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 มาตรา 10 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดินแก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ. 2475 มาตรา 3 บัญญัติว่าโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น ๆซึ่งเจ้าของอยู่เองหรือให้ผู้แทนเฝ้ารักษา และซึ่งมิได้ใช้เป็นที่ไว้สินค้าหรือประกอบการอุตสาหกรรม ท่านให้งดเว้นจากบทบัญญัติแห่งภาคนี้ตั้งแต่ พ.ศ. 2475 เป็นต้นไป จากบทบัญญัติดังกล่าวจะเห็นได้ว่า กฎหมายงดเว้นภาษีโรงเรือนและที่ดินให้เฉพาะแก่โรงเรือนซึ่งเจ้าของอยู่เองหรือให้ผู้แทนอยู่เฝ้ารักษาเท่านั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติตามคำฟ้องว่า นอกจากโจทก์จะใช้ตึกแถวเลขที่ 275/3 เป็นที่อยู่อาศัยของภรรยาและบุตรแล้ว โจทก์ยังให้นายธีระยุทธ บุตรเขยใช้เป็นที่ตั้งสำนักงานทนายความด้วยย่อมถือไม่ได้ว่าโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของอยู่เอง หรือให้ผู้แทนอยู่เฝ้ารักษาอันจะได้รับงดเว้นภาษีโรงเรือนและที่ดินตามบทกฎหมายดังกล่าว ส่วนที่โจทก์อุทธรณ์ว่า กรณีตามฟ้องของโจทก์ต้องรับฟังว่าโจทก์ร่วมกับบุตรของโจทก์เป็นผู้ตั้งสำนักงานทนายความเอง ถือว่าโจทก์อยู่เองและตั้งสำนักงานทนายความเองและการตั้งสำนักงานทนายความมิได้มีลักษณะเป็นสำนักงานประกอบการค้าหรือธุรกิจ ไม่ต้องจดทะเบียนการค้า และเสียภาษีการค้าด้วย จึงได้รับงดเว้นภาษีโรงเรือนและที่ดินตามกฎหมายนั้น เห็นว่า การใช้อาคารพิพาทตั้งสำนักงานทนายความมีลักษณะเป็นการดำเนินธุรกิจอย่างหนึ่ง ถือไม่ได้ว่าโจทก์ใช้อยู่เองหรือให้ผู้แทนอยู่เฝ้ารักษา ส่วนการตั้งสำนักงานทนายความแม้ว่าจะไม่ต้องจดทะเบียนการค้าและเสียภาษีการค้าตามประมวลรัษฎากรนั้น ก็หามีผลทำให้หน้าที่การเสียภาษีโรงเรือนและที่ดินสำหรับตึกแถวพิพาทของโจทก์เปลี่ยนแปลงไปไม่
พิพากษายืน