แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทรัพย์สินของสามีภริยาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายต้องถือ+กรรมสิทธิร่วม
โจทก์เป็นมารดารผู้ตาย+ขอแบ่งทรัพย์มฤดกของผู้ตายจากจำเลย เมื่อฟังว่าจำเลยและผู้ตายไม่ใช่สามีภริยาโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยก็ไม่มีสิทธิในทรัพย์มฤดกของผู้ตาย ศาลย่อมให้จำเลยคืนทรัพย์มฤดกของผู้ตายให้แก่โจทก์ได้ ไม่เป็นการ+ฟ้องนอกประเด็นอย่างไร
ในประเด็นที่ศาลชั้นต้นชี้ขาดให้เป็นโทษแก่โจทก์แล้ว โจทก์พอใจไม่อุทธรณ์ จำเลยจะอุทธรณ์แต่ไม่ได้อุทธรณ์ในประเด็นนั้น แต่อุทธรณ์ในประเด็นข้ออื่น ดังนี้ ศาลอุทธรณ์จะกลับไปชี้ขาดในประเด็นข้อนั้นให้เป็นโทษแก่จำเลยไม่ได้
ย่อยาว
ข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยกับนางละม่อมบุตรีโจทก์ ได้ทำการสมรสหลังประกาศใช้ประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์บรรพ ๕ แต่ไม่ได้ไปจดทะเบียนสมรส นางละม่อมไม่มีสินเดิม จำเลยได้ให้ค่าเลี้ยงดูในการแต่งงานและสินสอด ๑๔๔ บาท แก่ฝ่ายโจทก์ จำเลยมีสินเดิม ๔๐๐ บาท นางละม่อมถึงแก่ความตายเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๘ โจทก์จึงฟ้องขอแบ่งสินสมรส ซึ่งเป็นส่วนของนางละม่อม ๘๓๘ บาท ๕๐ สตางค์
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยกับนางละม่อมไม่เป็นผัวเมียตามกฎหมาย ทรัพย์สินระหว่างจำเลยกับนางละม่อม จึงอยู่ในฐานหุ้นส่วนสามัญ พิพากษาให้ขายทอดตลาดทรัพย์ และแบ่งส่วนของนางละม่อมตามส่วนจำนวนทุนของนางละม่อม แต่ให้โจทก์ไม่เกิน ๘๓๘ บาท ๕๐ สตางค์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ทรัพย์สินระหว่างนางละม่อมกับจำเลยอยู่ในฐานะเจ้าของร่วม พิพากษาแก้ให้เอาทรัพย์ออกขายทอดตลาด แล้วนำเงิน ๑๔๔ บาทมารวม แล้วแบ่งครึ่งระหว่างจำเลยกับนางละม่อม ส่วนของนางละม่อมให้โจทก์รับมฤดก แต่ไม่เกิน ๘๓๘ บาท ๕๐ สตางค์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ฟ้องเรียกทรัพย์มฤดกของนางละม่อมบุตรีโจทก์ ซึ่งอยู่ที่จำเลย โดยให้แบ่งสมรสของจำเลย และบ่งส่วนได้ของจำเลย ในฐานะเป็นสามีองนางละม่อมก่อน เมื่อจำเลยต่อสู้ว่า มิได้เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย ศาลฟังข้อเท็จจริงตามข้อต่อสู้ของจำเลยนั้นแล้ว จำเลยก็ไม่มีสิทธิอันใดในทรัพย์มฤดกของนางละม่อม ศาลย่อมสั่งให้จำเลยคืนให้แก่โจทก์ได้ตามฟ้อง ไม่เป็นการนอกประเด็นอย่างไร เงิน ๑๔๔ บาทนั้น โจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ไปชี้ขาดให้เป็นโทษแก่จำเลยผู้อุทธรณ์หาได้ไม่ พิพากษาแก้ฉะเพาะเรื่องเงิน ๑๔๔ บาท ไม่ต้องชักขึ้นจากทรัพย์ที่ขายได้ นอกนั้นยืน