แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
พ.ร.บ. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 มาตรา 29ให้อำนาจจำเลยที่ 1 เดินสายส่งไฟฟ้า ปักหรือตั้งเสาลงในหรือบนที่ดินของโจทก์ และตัดฟันต้นไม้หรือพืชผลในเขตเดินสายไฟฟ้าได้เมื่อได้แจ้งเป็นหนังสือให้โจทก์ทราบ จำเลยที่ 1 ไม่ได้ถือว่าที่ดินในเขตเดินสายไฟฟ้าเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา 36จึงไม่จำเป็นต้องนำบทบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์มาใช้และไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 มีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ว่าการ จำเลยที่ 3 ที่ 4 เป็นพนักงานของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 3ที่ 4 โดยคำสั่งของจำเลยที่ 2 และในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1ได้วางสายส่งไฟฟ้าผ่านเข้าไปในที่ดินของโจทก์ ที่ดินของโจทก์จึงตกเป็นเขตเดินสายไฟฟ้าของจำเลยที่ 1 ทำให้โจทก์เสียหายคิดเป็นเงิน 116,000 บาท และจำเลยได้ตัดฟันต้นไม้ของโจทก์ในที่ดินดังกล่าวรวม 7 ต้น คิดเป็นเงิน 1,000 บาท โดยไม่ชอบและขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2521 มาตรา 33 ขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนสายไฟฟ้าออกไปจากที่ดินของโจทก์ หากไม่รื้อก็ให้ชดใช้ค่าที่ดินแก่โจทก์จำนวน 116,000 บาท และค่าต้นไม้จำนวน 1,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสี่ให้การว่า ตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 มาตรา 29 ให้อำนาจจำเลยที่ 1 เข้าไปปักเสาหรือทั้งเสาและเดินสายส่งไฟฟ้าในเขตที่ดินของโจทก์รวมทั้งตัดต้นไม้หรือพืชผลในเขตเดินสายไฟฟ้าได้ จำเลยที่ 1 ได้แจ้งให้โจทก์ทราบล่วงหน้าแล้ว การกระทำของจำเลยจึงชอบด้วยกฎหมาย จำเลยที่ 1 เพียงขอสิทธิในการเดินสายไฟฟ้าเหนือพื้นดินของโจทก์ ไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน จึงไม่จำต้องเวนคืนที่ดินของโจทก์และไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2521 โจทก์เรียกค่าทดแทนสูงเกินความครอง จำเลยที่ 2 เป็นผู้แทนจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 3 และที่ 4 เป็นลูกจ้างจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 กระทำการตามหน้าที่ จึงไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระค่าทดแทนเป็นเงิน16,780,38 บาท แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ ยกคำขออื่น
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษา
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า พิเคราะห์แล้ว ในปัญหาที่โจทก์ฎีกาว่า จำเลยจะต้องเวนคืนที่ดินของโจทก์ก่อนจึงสามารถเดินสายไฟฟ้าผ่านที่ดินของโจทก์ได้นั้น ตามพระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 มาตรา 29 ให้อำนาจจำเลยที่ 1เดินสายส่งไฟฟ้า ปักหรือตั้งเสาลงในหรือบนที่ดินของโจทก์และตัดฟันต้นไม้หรือพืชผลในเขตเดินสายไฟฟ้าได้เมื่อได้แจ้งเป็นหนังสือให้โจทก์ทราบ จำเลยที่ 1 ไม่ได้ถือว่าที่ดินในเขตเดินสายไฟฟ้าเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ตาม มาตรา 36 จึงไม่จำต้องนำบทบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์มาใช้บังคับและไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แล้ววินิจฉัยว่าการกำหนดค่าทดแทนของจำเลยที่ 1 ชอบและเป็นธรรมแก่โจทก์แล้ว
พิพากษายืน.