คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องหาว่าจำเลยสมคบกันขนย้ายข้าวโดยมิได้รับอนุญาตรายเดียวกัน และเป็นการกระทำผิดร่วมกันในกรณีอันหนึ่งอันเดียวกัน มิใช่เป็นเหตุส่วนตัวของแต่ละคน ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจพิพากษาลดโทษปรับตลอดไปถึงจำเลยที่มิได้อุทธรณ์ด้วย เพราะเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดีตามความหมายใน ป.ม.วิ.อาญา มาตรา 213.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องจำเลยให้การรับสารภาพได้ความว่า จำเลยได้สมคบกันขนย้ายข้าวเปลือก ๔๐๐ ถัง หรือ ๔ เกวียน จากอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายกเข้าไปยังกิ่งอำเภอหนองหมู จังหวัดสระบุรี โดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทุกคนมีผิดตาม พ.ร.บ.สำรวจและห้ามกักกันข้าว ประกอบกับ ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา ๕๙ ให้ปรับจำเลยนอกจาก ด.ญ.เจริญ และ ด.ช.พรม จำเลยคนละ ๑๕๐๐ บาท และให้เรียกประกันทัณฑ์บลจากผู้ปกครอง ด.ญ.เจริญ, ด.ช.พรม
นายเคลือบ นายสร้อย นายพวง นางมีอุทธรณ์,
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ปรับนายเคลือบจำเลย ๕๐๐ บาท นอกนั้นคนละ ๒๐๐ บาท ให้บังคับถึงนายพา , นายทาจำเลยผู้มิได้อุทธรณ์ด้วย นอกนั้นยืนตาม
โจทก์ฎีกา, ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาฉะเพาะข้อกฎหมายว่าศาลอุทธรณ์ลดโทษปรับให้แก่จำเลยผู้มิได้อุทธรณ์
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า นายพา,นายทาจำเลยนี้ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยได้สมคบกับจำเลยอื่นขนย้ายข้าวโดยมิได้รับอนุญาตรายเดียวกัน และเป็นการกระทำผิดร่วมกันในกรณีอันหนึ่งอันเดียวกัน มิใช่เป็นเหตุส่วนตัวแต่ละคน จึงเป็นเหตุในลักษณะคดีตามความหมายใน ป.ม.วิ.อาญา มาตรา ๒๑๓ ศาลอุทธรณ์มีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยที่มิได้อุทธรณ์ด้วย
พิพากษายืน

Share