คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 626/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยอุทธรณ์และฎีกาคำสั่งชั้นบังคับคดีว่า จำเลยไม่ควรต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างจากที่ดินตามคำพิพากษา เพราะได้ทำสัญญาเช่าจากผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินแล้วทั้งหมดนอกจากนายชัยวัฒน์โจทก์ แต่ในระหว่างอุทธรณ์ จำเลยและนายชัยวัฒน์โจทก์ ได้มาศาลทำความตกลงกันยืดเวลาให้จำเลยรื้อถอนภายใน 3 เดือน ถ้ารื้อไม่เสร็จจำเลยยอมเสียค่าเสียหายวันละ 100 บาท ดังนี้ ต้องถือตามข้อตกลงนั้น มูลเดิมที่จำเลยอุทธรณ์เป็นอันหมดไป ไม่มีมูลที่จำเลยจะฎีกาอีก

ย่อยาว

กรณีเดิมมีว่า ศาลชั้นต้นได้พิพากษาให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ดิน คดีถึงที่สุดแล้ว ต่อมาจำเลยได้ทำสัญญาเช่าจากผู้ถือกรรมสิทธิ์ทั้งหมดนอกจากนายชัยวัฒน์โจทก์ซึ่งไม่ยินยอมและขอให้ศาลบังคับจำเลยให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตามคำพิพากษา ศาลชั้นต้นสั่งแนะนำว่าคดีถึงที่สุดแล้ว ไม่มีเหตุอื่นที่จำเลยจะไม่ทำตามได้ จำเลยอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น ในระหว่างอุทธรณ์ นายชัยวัฒน์โจทก์และฝ่ายจำเลยได้มาศาลทำความตกลงกันว่าจำเลยจะรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างจากที่ดินโจทก์ภายใน 3 เดือน ถ้ารื้อไม่เสร็จจะใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์วันละ 100 บาท ครบ 3 เดือนแล้วจำเลยก็ยังไม่รื้อถอน ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาให้ยืนตามศาลชั้นต้น

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้เป็นเรื่องการบังคับคดีตามคำพิพากษาศาลเดิม แต่ระหว่างอุทธรณ์ โจทก์จำเลยได้ทำความตกลงโดยยืดเวลาให้จำเลยต่อไป 3 เดือน และศาลได้รับรู้และรับบังคับบัญชาให้เช่นนี้ก็ต้องถือตามข้อตกลงนั้น มูลเดิมที่จำเลยอุทธรณ์เป็นอันตกไปโดยข้อตกลงนั้นไม่มีมูลที่จำเลยจะฎีกาอีก

พิพากษายกฎีกาจำเลย

Share