แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ที่ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นมีคำสั่งในคำร้องที่จำเลยขอให้รับรองฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงว่า “เห็นว่าคดีนี้มีปัญหาที่ว่าพยานวัตถุอันเป็นพยานเกี่ยวข้องในคดีซึ่งเป็นพยานสำคัญอันควรสู่ศาลฎีกา จึงอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้” นั้น เป็นคำสั่งที่มิได้มีข้อความใดที่แสดงว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด จึงเป็นคำสั่งที่มิชอบด้วยป.วิ.อ. มาตรา 221 ถือไม่ได้ว่าเป็นการอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงโดยชอบ ศาลฎีกาจึงรับวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงให้ไม่ได้
ส่วนที่จำเลยฎีกาปัญหาข้อกฎหมายว่า นาย ส.ผู้ตาย สามีโจทก์ร่วมมีส่วนในการกระทำผิดด้วย โจทก์ร่วมจึงไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมนั้น เมื่อศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงให้เสียแล้ว ย่อมไม่ทำให้ผลของคดีนี้เปลี่ยนแปลงไป ฎีกาข้อกฎหมายของจำเลยจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249 ประกอบด้วย ป.วิ.อ.มาตรา 15 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย