แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยก่อสร้างอาคารโดยไม่รับอนุญาตเจ้าพนักงานท้องถิ่นได้ตรวจพบหลังจากที่อาคารก่อสร้างเสร็จแล้วจึงล่วงเลยเวลาที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะมีคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างได้เจ้าพนักงานท้องถิ่นจึงไม่จำต้องมีคำสั่งดังกล่าวดังนั้นแม้เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะสั่งให้จำเลยรื้อถอนอาคารเกิน30วันนับแต่วันที่ได้มีคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างก็ไม่ทำให้จำเลยพ้นความรับผิดที่จะรื้อถอนอาคารและไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคารพ.ศ.2522มาตรา42.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยปลูกสร้างอาคารตึก 1 ชั้น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากโจทก์ ขอให้บังคับจำเลยรื้อถอน
จำเลยให้การว่าสิ่งปลูกสร้างตามฟ้องก่อสร้างขึ้นก่อนประกาศใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 จะนำกฎหมายดังกล่าวมาใช้บงคับย้อนหลังไม่ได้ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนอาคารพิพาท ถ้าจำเลยไม่ยอมรื้อถอนก็ให้โจทก์รื้อถอนได้เองโดยให้จำเลยเสียค่าใช้จ่าย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเชื่อว่าอาคารพิพาทได้ก่อสร้างขึ้นหลังจากประกาศใช้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องควบคุมการก่อสร้างอาคาร พ.ศ. 2522 อาคารพิพาทจึงต้องตกอยู่ในบังคับแห่งพระราชบัญญัติและข้อบัญญัติดังกล่าวที่จำเลยฎีกาว่าเจ้าพนักงานท้องถิ่นสั่งให้จำเลยรื้อถอนอาคารพิพาทเกิน 30 วัน นับแต่วันที่ได้มีคำสั่งให้ระงับการก่อสร้าง เป็นการไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 40 วรรคสองนั้น เห็นว่า จากการนำสืบของโจทก์และจำเลย ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าขณะที่นายสมชายพยานโจทก์ตรวจพบอาคารพิพาท อาคารพิพาทได้ก่อสร้างเสร็จแล้ว จึงล่วงเลยเวลาที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะมีคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างเจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่จำต้องมีคำสั่งดังกล่าว ฉะนั้นแม้เจ้าพนักงานท้องถิ่นจะสั่งให้จำเลยรื้อถอนอาคารพิพาทเกิน 30 วัน นับแต่วันที่ได้มีคำสั่งให้ระงับการก่อสร้าง ก็ไม่ทำให้จำเลยพ้นความรับผิดที่จะต้องรื้อถอนอาคารที่ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารพ.ศ. 2522 มาตรา 42
พิพากษายืน.