แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
เจ้าพนักงานตำรวจให้สายลับไปล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนจากจำเลย 1 เม็ด แต่ในการล่อซื้อนั้นสายลับไปล่อซื้อโดยลำพังเพียงคนเดียวไม่มีเจ้าพนักงานตำรวจติดตามไปเฝ้าดู แต่อย่างใด และจากการตรวจค้นที่บ้านจำเลยก็ไม่พบเมทแอมเฟตามีน แม้จะค้นพบธนบัตรของกลางจากกระเป๋ากางเกงของจำเลยที่แขวนไว้ ที่ฝาบ้านก็ตาม ก็ยังฟังไม่ถนัดนักว่าจำเลยรับธนบัตรมาเนื่องจาก การซื้อขายเมทแอมเฟตามีน อาจเป็นการรับจากสายลับโดยประการอื่น ก็เป็นได้ โดยเฉพาะคำบอกเล่าของสายลับต้องรับฟังด้วย ความระมัดระวัง ทั้งการที่จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุม และชั้นสอบสวนนั้น จำเลยก็นำสืบต่อสู้ว่า ถูกเจ้าพนักงาน ตำรวจบังคับให้รับสารภาพ และยังถูกหลอกว่ามีเพียงโทษปรับ สถานเดียว จำเลยจึงยอมรับสารภาพ เมื่อโจทก์ไม่มีประจักษ์ พยานที่รู้เห็นเหตุการณ์โดยตรงมาเบิกความ มีแต่เพียงพยาน บอกเล่าเท่านั้นจึงยังไม่มีน้ำหนักมั่นคงที่จะทำให้เชื่อได้ โดยสนิทใจ คดีมีเหตุอันควรสงสัยตามสมควรว่าจำเลยกระทำ ความผิดตามฟ้องหรือไม่ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้น ให้จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรคสอง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 4, 5, 6, 13, 13 ทวิ, 62, 89, 106
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท พ.ศ. 2518 มาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง, 89 จำคุก 5 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่าตามวันเวลาเกิดเหตุเจ้าพนักงานตำรวจไปค้นที่บ้านจำเลยยึดธนบัตรฉบับละ100 บาท จำนวน 1 ฉบับ ตามเอกสารหมาย จ.1 มาเป็นของกลางมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ ในปัญหาดังกล่าว เห็นว่า เหตุที่มีการจับกุมจำเลยครั้งนี้ก็เนื่องจากเจ้าพนักงานตำรวจให้สายลับไปล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนมาได้จากจำเลย 1 เม็ด แต่ในการล่อซื้อนั้นได้ความจาก ร้อยตำรวจเอกชุมพล คร้ามบุญลือ และนายดาบตำรวจชูศักดิ์ บุญเกิด ว่า สายลับไปล่อซื้อโดยลำพังเพียงคนเดียวโดยไม่มีเจ้าพนักงานตำรวจติดตามไปเฝ้าดูแต่อย่างใดจุดที่ล่อซื้อก็อยู่ห่างจากสถานีตำรวจถึง 3 กิโลเมตร จะมีการล่อซื้อจริงหรือไม่ ไม่มีพยานโจทก์ยืนยันในเรื่องนี้ และจากการตรวจค้นที่บ้านจำเลยก็มิได้พบเมทแอมเฟตามีน แม้จะได้ความว่าค้นพบธนบัตรของกลางจากกระเป๋ากางเกงของจำเลยที่แขวนไว้ที่ฝาบ้านก็ตามก็ยังฟังไม่ถนัดนักว่าจำเลยรับธนบัตรมาเนื่องมาจากการซื้อขายเมทแอมเฟตามีนดังที่สายลับว่าอาจเป็นการรับจากสายลับโดยประการอื่นก็เป็นได้ โดยเฉพาะคำบอกเล่าของสายลับต้องรับฟังด้วยความระมัดระวัง ส่วนที่ว่าจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนนั้นในข้อนี้จำเลยก็นำสืบต่อสู้ว่า ถูกเจ้าพนักงานตำรวจบังคับให้รับสารภาพมิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีในข้อหาเผาถ่าน และยังถูกหลอกว่ามีเพียงโทษปรับสถานเดียว จำเลยจึงยอมรับสารภาพจากพยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบมา โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานที่รู้เห็นเหตุการณ์โดยตรงมาเบิกความ มีแต่เพียงพยานบอกเล่าเท่านั้น ยังไม่มีน้ำหนักมั่นคงที่จะทำให้เชื่อได้โดยสนิทใจคดีมีเหตุอันควรสงสัยตามสมควรว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรคสองที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายกฟ้องโจทก์นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน