คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6166/2544

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ มาตรา 12 บัญญัติว่า “การกำหนดโทษจำคุกที่จะลงโทษแก่ผู้กระทำความผิดตามมาตรา 9 มาตรา 10 หรือมาตรา 11 ให้กำหนดโทษจำคุกอย่างสูงที่สุดได้ไม่เกินห้าสิบปี”ดังนั้น การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ มาตรา 15 วรรคหนึ่ง และมาตรา 66 วรรคหนึ่ง ประกอบด้วยพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดฯ มาตรา 10 และกำหนดโทษจำคุก 66 ปี จึงเป็นการไม่ชอบด้วยมาตรา 12 ดังกล่าว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2542 เวลากลางวัน จำเลยที่ 1ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ตำบลดอนคา อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรีมีฐานะเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย กับจำเลยที่ 2 ร่วมกันมีเมทแอมเฟตามีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำเลยทั้งสองร่วมกันจำหน่ายโดยการขายเมทแอมเฟตามีนดังกล่าวให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อในราคา80,000 บาท อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เจ้าพนักงานจับจำเลยทั้งสองได้พร้อมด้วยธนบัตรชนิดต่าง ๆ หลายฉบับ รวมเป็นเงิน 80,000 บาท ซึ่งเป็นธนบัตรที่ได้มาจากการจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนและเมทแอมเฟตามีนที่ได้จำหน่ายให้แก่สายลับผู้ล่อซื้อจำนวน 2,000 เม็ด เป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8,15, 66, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 83 พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534มาตรา 10 และริบเมทแอมเฟตามีนของกลางที่เหลือจากการตรวจวิเคราะห์

จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่ง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 10จำเลยที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่ง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทแต่ละบทเป็นความผิดในบทมาตราเดียวกันและมีอัตราโทษเท่ากันให้ลงโทษฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 66 ปี จำเลยที่ 2 มีกำหนด 22 ปี จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คนละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 1มีกำหนด 33 ปี จำเลยที่ 2 มีกำหนด 11 ปี ริบเมทแอมเฟตามีนของกลางที่เหลือจากการตรวจวิเคราะห์

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้โจทก์และจำเลยที่ 2 มิได้อุทธรณ์ คดีสำหรับจำเลยที่ 2 จึงถึงที่สุดตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 1 ประการแรกว่า ศาลล่างทั้งสองกำหนดโทษแก่จำเลยที่ 1ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 12 บัญญัติว่า”การกำหนดโทษจำคุกที่จะลงโทษแก่ผู้กระทำความผิดตามมาตรา 9มาตรา 10 หรือมาตรา 11 ให้กำหนดโทษจำคุกอย่างสูงที่สุดได้ไม่เกินห้าสิบปี” ดังนั้น การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 เห็นด้วยกับศาลชั้นต้นที่พิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 ในความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง,66 วรรคหนึ่ง ประกอบด้วยพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 10 และกำหนดโทษจำคุกถึง 66 ปี จึงเป็นการไม่ชอบด้วยมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534ฎีกาของจำเลยที่ 1 ข้อนี้ฟังขึ้น แต่ที่จำเลยที่ 1 ฎีกาขอให้กำหนดโทษแก่จำเลยที่ 1 โดยให้จำคุก 30 ปี ก่อนลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 นั้น เห็นว่า พระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 10 บัญญัติให้กำหนดโทษจำคุกกรณีนี้เป็นสามเท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ดังนั้น เมื่อคดีสำหรับจำเลยที่ 2 ผู้มิใช่เป็นเจ้าพนักงานซึ่งร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1 ถึงที่สุดแล้ว โดยศาลชั้นต้นกำหนดโทษจำคุกก่อนลดโทษมีกำหนด 22 ปี การจะกำหนดโทษจำคุกจำเลยที่ 1 จำนวน30 ปี ซึ่งมากกว่าจำเลยที่ 2 เพียง 8 ปี ย่อมเห็นได้ชัดแจ้งว่าจะไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติในมาตรา 10 ดังกล่าว กรณีจึงเห็นสมควรกำหนดโทษจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 50 ปี ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 12แห่งพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 ฎีกาของจำเลยที่ 1 ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น”

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยที่1 ฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง,66 วรรคหนึ่ง ประกอบด้วยพระราชบัญญัติมาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534 มาตรา 10, 12 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ให้จำคุก 50 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด25 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7

Share