แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยตอกเสาเข็มปลูกสร้างอาคารโรงแรม 16 ชั้น ทำให้โจทก์ทนทุกขเวทนาแสนสาหัส นอนไม่หลับเพราะหนวกหู ฝุ่นละอองจากการก่อสร้างทำให้บ้านเรือนสกปรกบ้านสั่นสะเทือน หินและไม้ตกลงบนหลังคาบ้านโจทก์อันอาจจะเกิดอันตรายต่อโจทก์และบริวารได้ไม่ปรากฏว่าความทนทุกข์ทรมานสาหัสดังกล่าวเป็นอันตรายต่อร่างกายหรือจิตใจของโจทก์ แต่เป็นเรื่องเสียหายต่ออนามัยและสิทธิจะอยู่อย่างสงบไม่ถูกรบกวนเพราะความทรมานนอนไม่หลับอันเนื่องจากฝุ่นละอองเสียงจากการก่อสร้างอันได้แก่การตอกเสาเข็ม และความหวาดระแวงอันเกิดจากสิ่งของตกหล่น ลงมาบนหลังคาอันอาจเกิดอันตรายแก่อาคารและผู้อยู่อาศัยในบ้าน รวมทั้งการอัดตัวของดินทำให้บ้านเรือนโจทก์เสียหายอันอาจเป็นอันตรายแก่ผู้อยู่อาศัยเหตุการณ์เช่นนี้เกิดอยู่ตลอดเวลาประมาณ 2 เดือน ทำให้โจทก์เสียหายแก่อนามัยรวมทั้งสิทธิส่วนตัวที่จะมีความเป็นอยู่อย่างสงบสุขทั้งร่างกายและจิตใจ โจทก์จึงมีสิทธิได้รับชดใช้ค่าเสียหายในส่วนนี้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 โดย จำเลยที่ 2 และที่ 3 ได้ว่าจ้างจำเลยที่ 4 โดย จำเลยที่ 5 หุ้นส่วนผู้จัดการ ให้ทำการตอกเสาเข็มปลูกสร้างอาคารโรงแรม 16 ชั้น และร่วมกันดำเนินการตอกเสาเข็มอัดแรงขนาดใหญ่ประมาณ 600 ตัน ดังกล่าวโดย ใช้ปั้นจั่น ขนาดใหญ่โดย จงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้เกิดความสั่นสะเทือน และมีการอัดไหลของดินด้านล่างทำให้บ้านของโจทก์ทรุดเสียหายแตกร้าวทั่วไปห้องน้ำแตกร้าวไม่สามารถทำการซ่อมแซมได้ ต้องรื้อทำใหม่ รั้วบ้านทรุดแตกร้าวเคลื่อนตัวไปจากแนวของเดิม ต้องทำการทุบทิ้งและก่อสร้างใหม่ ประเมินราคาค่าซ่อมเป็นเงิน 506,736 บาท ค่าขนย้ายสิ่งของไปอยู่ที่อื่นในขณะทำการรื้อซ่อมแซมบ้านใหม่เป็นเงิน 10,000 บาทค่าเช่าโรงแรมเพื่อพักอาศัยในขณะทำการซ่อมแซมบ้านเป็นเวลา2 เดือน ค่าเช่าวันละ 2,000 บาท เป็นเงิน 120,000 บาทนอกจากนี้ยังก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่อนามัยร่างกายและสภาพจิตของโจทก์และบริวาร คิดค่าเสียหายเป็นเงิน 300,000 บาทรวมค่าเสียหายทั้งสิ้น 936,736 บาท ขอให้บังคับให้จำเลยทั้งห้าร่วมกันและแทนกันชำระค่าเสียหายแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยทั้งห้าให้การว่า โจทก์ไม่ได้รับทุกขเวทนาแต่อย่างใดขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ที่ 4 และที่ 5 ร่วมกันชำระค่าเสียหาย จำนวน 300,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 และที่ 3 โจทก์ จำเลยที่ 1 ที่ 4 และที่ 5อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ที่ 4 และที่ 5ร่วมกันชำระค่าเสียหายจำนวน 580,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ของเงิน 580,000 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นโจทก์ จำเลยที่ 1 ที่ 4 และที่ 5 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาสุดท้ายคือค่าเสียหายเพราะโจทก์ทนทุกข์เวทนาแสนสาหัส ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจนอนไม่หลับเพราะหนวกหู ฝุ่นละอองจากการก่อสร้างทำให้บ้านเรือนสกปรกบ้านสั่นสะเทือน หินและไม้ตกลงบนหลังคาบ้านโจทก์เกรงจะเกิดอันตรายต่อโจทก์และบริวารนั้น เห็นว่า ไม่ปรากฏว่าความทนทุกข์ทรมานสาหัสดังที่โจทก์อ้างนั้นเป็นอันตรายต่อร่างกายหรือจิตใจของโจทก์แต่เห็นว่าค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องมานี้เป็นเรื่องเสียหายต่ออนามัยและสิทธิจะอยู่อย่างสงบไม่ถูกรบกวนเพราะความทรมานนอนไม่หลับอันเนื่องจากฝุ่นละออง เสียงจากการก่อสร้างอันได้แก่การตอกเสาเข็ม และความหวาดระแวงอันเกิดจากสิ่งของตกหล่น ลงมาบนหลังคาอันอาจเกิดอันตรายแก่อาคารและผู้อยู่อาศัยในบ้านดังที่มีไม้ตกทะลุหลังคาลงมาจนจำเลยต้องชดใช้ค่าซ่อมหลังคาให้แก่โจทก์ รวมทั้งการอัดตัวของดินทำให้บ้านเรือนโจทก์เสียหายอันอาจเป็นอันตรายแก่ผู้อยู่อาศัย เหตุการณ์เช่นนี้เกิดอยู่ตลอดเวลานับแต่ปลายเดือนเมษายน 2528 ถึงต้นเดือนกรกฎาคม 2528 เป็นเวลาประมาณ 2 เดือนตามพฤติการณ์เชื่อได้ว่า ทำให้โจทก์เสียหายแก่อนามัยรวมทั้งสิทธิส่วนตัวที่จะมีความเป็นอยู่อย่างสงบสุขทั้งร่างกายและจิตใจโจทก์จึงสมควรได้รับชดใช้ค่าเสียหายในความเสียหายนี้ เมื่อคำนึงถึงการก่อสร้างของจำเลยซึ่งอาจจะกระทำได้โดย การตอกเสาเข็มด้วยวิธีอื่นเช่นการเจาะซึ่งจะไม่เสียหายและรบกวนสิทธิของผู้อื่นเกินขนาด แต่จำเลยก็มิได้นำพาแม้ในคดีที่บิดาโจทก์ฟ้องจำเลยและศาลมีคำสั่งห้ามจำเลยตอกเสาเข็มโดยวิธีตอกแล้วจำเลยก็ยังขืนตอกเสาเข็มไปจนเสร็จ แสดงให้เห็นว่าฝ่ายจำเลยมิได้เคารพในสิทธิของผู้อื่น เห็นสมควรกำหนดค่าเสียหายในส่วนนี้เป็นเงิน70,000 บาท รวมเป็นเงินค่าเสียหายทั้งสิ้น 530,000 บาท”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ที่ 4 และที่ 5 ร่วมกันชำระค่าเสียหายจำนวน 530,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์