คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6126/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปัญหาที่จำเลยฎีกาว่า ข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นสัญญาจ้างแรงงาน โจทก์จึงต้องนำคดีไปฟ้องยัง ศาลแรงงานนั้น เมื่อจำเลยมิได้ยกเรื่องอำนาจศาลขึ้นเป็นข้อต่อสู้ไว้ในคำให้การ เพิ่งมายกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาทั้งปัญหาเรื่องอำนาจของศาลชำนัญพิเศษกับอำนาจของศาลชั้นต้นซึ่งเป็นศาลชั้นเดียวกันจะต้องยุติใน ศาลชั้นต้นเพื่อไม่ให้เป็นช่องทางแก่คู่ความประวิงคดี หากคู่ความไม่โต้แย้งหรือศาลชั้นต้นไม่ยกปัญหาขึ้นจนกระทั่งศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว แสดงว่าคู่ความยอมรับอำนาจศาล ปัญหาตามฎีกาของจำเลยดังกล่าวจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้อง ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินให้แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ย นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยให้การและฟ้องแย้ง ขอให้ยกฟ้องและบังคับโจทก์ชำระเงินแก่จำเลยพร้อมดอกเบี้ย นับแต่วันฟ้องแย้งจนกว่าจะชำระเสร็จ
โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้ง ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ ๔๐,๐๐๐ บาท ให้ยกฟ้องแย้งของจำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ ๓๐,๐๐๐ บาท แทนโจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยตกลงว่าจ้างโจทก์เฉพาะค่าแรงให้ทำการก่อสร้างอาคารจอดรถ ๖ ชั้น และงานไม้แบบ งานคอนกรีตของอาคารสูง ๔๒ ชั้น ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งโรงแรมแอมบาสเดอร์ซิตี้จอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นสัญญาจ้างแรงงานโจทก์จึงต้องนำคดีไปฟ้องยังศาลแรงงานกลางนั้น เห็นว่า ป.วิ.พ. มาตรา ๒๔๙ บัญญัติว่า ข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างในการยื่นฎีกานั้น คู่ความจะต้องกล่าวไว้โดยชัดแจ้งในฎีกา และต้องเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ทั้งจะต้องเป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยด้วย เมื่อจำเลยมิได้ยกเรื่องอำนาจศาลขึ้นเป็นข้อต่อสู้ไว้ในคำให้การเพิ่งมายกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาทั้งปัญหาเรื่องอำนาจของศาลชำนัญพิเศษกับอำนาจของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ซึ่งเป็นศาลชั้นต้นเดียวกันจะต้องยุติในศาลชั้นต้นเพื่อไม่ให้เป็นช่องทางแก่คู่ความประวิงคดี หากคู่ความไม่โต้แย้งหรือศาลชั้นต้นไม่ยกปัญหาขึ้นจนกระทั่งศาลชั้นต้นมี คำพิพากษาแล้ว แสดงว่าคู่ความยอมรับอำนาจศาล ปัญหาตามศาลฎีกาของจำเลยดังกล่าวจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยในข้อนี้
อนึ่ง ศาลชั้นต้นยังมิได้สั่งค่าฤชาธรรมเนียมสำหรับฟ้องแย้ง ศาลฎีกาจึงสั่งให้ถูกต้องตามป.วิ.พ. มาตรา ๑๖๑
พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา ๓๐,๐๐๐ บาท แทนโจทก์ ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมสำหรับฟ้องแย้งในศาลชั้นต้นให้เป็นพับ.

Share