คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6106/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การที่โจทก์มีหนังสือทวงถามให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายโดยหนังสือดังกล่าวมีข้อความว่าทรัพย์สินที่หายไปอยู่ในความรับผิดชอบของจำเลยจึงแจ้งให้จำเลยในฐานะผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับทรัพย์สินดังกล่าวชดใช้ทรัพย์สินแก่โจทก์ภายในกำหนด 3 วันนั้น ย่อมเป็นการทวงถามให้ชดใช้ค่าเสียหายในฐานะผู้รับผิดชอบตามตำแหน่งหน้าที่เท่านั้น ไม่ใช่ในฐานะผู้ทำละเมิด อายุความจึงยังไม่เริ่มนับต่อเมื่อโจทก์ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดชอบ และโจทก์ทราบผลการสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวนเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2524ว่า ผู้ต้องรับผิดคือจำเลย โจทก์ฟ้องจำเลยในวันที่ 6 พฤษภาคม 2524ไม่เกิน 1 ปี นับจาก ทราบผลดังกล่าว ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีมีข้อวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยในปัญหาข้อกฎหมายว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ พิเคราะห์แล้วศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่า หลังจากทรัพย์สินตามฟ้องหายไปโจทก์มีหนังสือลงวันที่ 3 เมษายน 2523 ทวงถามให้จำเลยที่ 1ชดใช้ค่าเสียหายตามเอกสารหมาย ล.6 จำเลยที่ 1 ได้รับหนังสือดังกล่าวแล้วปฏิเสธความรับผิดโดยอ้างว่าผู้อื่นต่างหากที่ต้องรับผิดหาใช่จำเลยที่ 1 ไม่ โจทก์จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาผู้รับผิดชอบตามเอกสารหมาย จ.5 และทราบผลการสอบสวนเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2524ว่าผู้ต้องรับผิดชอบคือจำเลยที่ 1 โดยมีจำเลยที่ 2 ต้องรับผิดร่วมด้วยในฐานะผู้ค้ำประกันตามเอกสารหมาย จ.6 โจทก์ทวงถามแล้วจำเลยทั้งสองปฏิเสธความรับผิด โจทก์จึงได้ฟ้องจำเลยทั้งสองเป็นคดีนี้เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2524 จำเลยทั้งสองฎีกาว่าการที่โจทก์มีหนังสือลงวันที่ 3 เมษายน 2523 ทวงถามให้จำเลยที่ 1 ชดใช้ค่าเสียหายตามเอกสารหมาย ล.6 ถือได้ว่า โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแล้วตั้งแต่วันดังกล่าวโจทก์ฟ้องคดีนี้วันที่ 6 พฤษภาคม 2524 เกิน 1 ปี นับแต่เหตุดังกล่าวผ่านพ้นไป ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่าที่โจทก์มีหนังสือทวงถามให้จำเลยที่ 1 ชดใช้ค่าเสียหายตามเอกสารหมาย ล.6 นั้น หนังสือดังกล่าวมีข้อความว่าทรัพย์สินที่หายไปอยู่ในความรับผิดชอบของจำเลยที่ 1 จึงแจ้งให้จำเลยที่ 1 ในฐานะผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับทรัพย์สินดังกล่าวชดใช้ทรัพย์สินแก่โจทก์ภายในกำหนด 3 วัน ย่อมเป็นการทวงถามให้ชดใช้ค่าเสียหายในฐานะผู้รับผิดชอบตามตำแหน่งหน้าที่เท่านั้น ไม่ใช่ในฐานะผู้ทำละเมิดเมื่อจำเลยที่ 1 ปฏิเสธว่าผู้อื่นต่างหากที่จะต้องรับผิดหาใช่จำเลยที่ 1 ไม่ดังนี้ ยังถือไม่ได้ว่า ตอนนั้นผู้ต้องรับผิดคือจำเลยที่ 1 อายุความยังไม่เริ่มนับ ต่อเมื่อโจทก์ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาผู้รับผิดและทราบผลการสอบสวนจากคณะกรรมการดังกล่าวแล้วว่าผู้ที่ต้องรับผิดคือใคร อายุความจึงจะเริ่มนับ โจทก์ทราบผลการสอบสวนจากคณะกรรมการสอบสวนเมื่อ วันที่ 12 มกราคม 2524ว่าผู้ต้องรับผิดคือจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 ต้องร่วมรับผิดด้วยในฐานะเป็นผู้ค้ำประกัน โจทก์ฟ้องคดีนี้วันที่ 6 พฤษภาคม 2524ไม่เกิน 1 ปี นับจากทราบผลดังกล่าว ดังนี้ฟ้องโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว”
พิพากษายืน

Share