แหล่งที่มา : ADMIN
ย่อสั้น
การกระทำใดเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนหรือไม่มิได้ถือเอาจำนวนผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงแต่ถือเอาเจตนาแสดงข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชนเป็นข้อสำคัญ.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ว่า จำเลย กับพวก โดย ทุจริต ร่วมกัน หลอกลวง ประชาชนโดย การ แสดง ข้อความเท็จ ว่า สามารถ จัด ส่ง ผู้ ที่ มา สมัครงานกับ จำเลย และ พวก ให้ เดินทาง ไป ทำงาน ใน ต่าง ประเทศ ได้ ความจริงจำเลย กับพวก ไม่ สามารถ ดำเนินการ ตาม ที่ โฆษณา ไว้ เป็น เหตุ ให้นาย สมจิตร กับ พวก มา สมัคร ไป ทำงาน และ เสีย เงิน ค่าสมัคร ให้ จำเลยคนละ 30,000 บาท ขอ ให้ ลงโทษ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343,83 กับ ให้ จำเลย คืน หรือ ใช้ เงิน 180,000 บาท แก่ ผู้เสียหาย ทั้งหก คน
จำเลย ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา343, 83 จำคุก 1 ปี 6 เดือน ลดโทษ ให้ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา78 หนึ่ง ใน สาม คง จำคุก 1 ปี ให้ จำเลย คืน หรือ ใช้ เงิน ให้ผู้เสียหาย 157,200 บาท
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ พิพากษา แก้ เป็น ว่า จำเลย มี ความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 นอกจาก ที่ แก้ คง ให้ เป็น ไป ตามคำพิพากษา ศาลชั้นต้น
โจทก์ ฎีกา ขอ ให้ ลงโทษ จำเลย ฐาน ฉ้อโกง ประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า ใน การ วินิจฉัย ข้อกฎหมาย ตาม ฎีกา ของ โจทก์ว่า การ กระทำ ของ จำเลย เป็น ความผิด ฐาน ฉ้อโกง ประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 หรือ ไม่ นั้น ศาลฎีกา ต้อง ฟัง ข้อเท็จจริงตาม ที่ ศาลอุทธรณ์ ได้ วินิจฉัย มา แล้ว จาก พยานหลักฐาน ใน สำนวนตาม บท บัญญัติ แห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 222 ซึ่งศาลอุทธรณ์ ฟัง ข้อเท็จจริง ว่า จำเลย ร่วม กับ พวก หลอกลวง ผู้เสียหายใน คดี นี้ เป็น ราย บุคคล ศาลฎีกา เห็น ว่า การ กระทำ อัน จะ เป็นความผิด ฐาน ฉ้อโกง ประชาชน ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 นั้น มิได้ถือ เอา จำนวน ผู้เสียหาย ที่ ถูก หลอกลวง มาก หรือ น้อย เป็น เกณฑ์แต่ ถือ เอา เจตนา แสดง ข้อความ อัน เป็น เท็จ หรือ ปกปิด ความจริงซึ่ง ควร บอก ให้ แจ้ง แก่ ประชาชน เป็น ข้อ สำคัญ ที่ ศาลอุทธรณ์วินิจฉัย ว่า จำเลย มี ความผิด ฐาน ฉ้อโกง ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา341 นั้น ต้อง ด้วย ความ เห็น ของ ศาลฎีกา ฎีกา ของ โจทก์ ฟัง ไม่ ขึ้น
พิพากษา ยืน