คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6052/2531

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้เป็นกรรมการของบริษัทลูกหนี้ย่อมจะต้องทราบถึงฐานะของลูกหนี้ได้ดีว่าตกอยู่ในสภาพเช่นไรการที่เจ้าหนี้ได้รับชำระดอกเบี้ยจากตั๋วสัญญาใช้เงินแต่เพียงบางส่วนตลอดจนลูกหนี้ต้องไปกู้ยืมเงินจากที่ต่าง ๆ เพื่อนำมาพยุงฐานะของลูกหนี้ที่กำลังทรุดลงจนในที่สุดทางราชการได้มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตดำเนินธุรกิจของลูกหนี้เช่นนี้ เจ้าหนี้ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการบริหารบริษัทลูกหนี้จะปฏิเสธว่าไม่ทราบถึงฐานะอันแท้จริงของลูกหนี้ว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัวหาได้ไม่ ดังนั้นการที่เจ้าหนี้ได้นำเงินเข้าฝากกับลูกหนี้หลังจากที่ทราบดีว่าลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัวแล้ว จึงต้องห้ามมิให้ขอรับชำระหนี้เงินฝากดังกล่าวตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 94(2)

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยไว้เด็ดขาดแล้วน.ส.มาลี เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ ตามตั๋วสัญญาให้ใช้เงินจำนวน 434,516 บาท เจ้าหนี้อื่นผู้ขอรับชำระหนี้รายที่ 35โต้แย้งว่าหนี้ที่ น.ส.มาลี ยื่นคำขอรับชำระหนี้ เป็นหนี้สมยอมและเป็นหนี้ที่เจ้าหนี้ยินยอมให้ลูกหนี้กระทำโดยเจ้าหนี้รู้ถึงการที่ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เห็นควรให้เจ้าหนี้ ได้รับชำระหนี้จำนวน 54,362.30 บาท ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เจ้าหนี้อุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ 380,153.70บาท เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ตามทางสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ปรากฎว่า เจ้าหนี้รายนี้ได้นำเงินเข้าฝากไว้กับลูกหนี้เป็นจำนวนทั้งสิ้น 23 รายการ ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.1 ถึง จ.23 แต่เฉพาะหนี้ตามเอกสารหมาย จ.16 ถึง จ.23 รวม 8 รายการ ซึ่งเป็นปัญหาในคดีนี้ปรากฏว่าเจ้าหนี้ได้นำเงินเข้าฝากกับลูกหนี้หลังจากที่เจ้าหนี้ได้เข้าเป็นกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทลูกหนี้แล้วทางเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงเห็นว่าเป็นกรณีที่เจ้าหนี้ยอมให้ลูกหนี้ก่อหนี้ขึ้นทั้งที่ทราบดีว่าลูกหนี้เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวจึงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 94(2) ในการที่เจ้าหนี้จะขอรับชำระหนี้ดังกล่าวจากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ คดีจึงมีประเด็นในชั้นนี้เฉพาะหนี้รวม8 รายการ ตามเอกสารหมาย จ.16 ถึง จ.23 ดังกล่าว
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าในช่วงเวลาที่เจ้าหนี้เข้าร่วมเป็นกรรมการผู้มีอำนาจในการดำเนินกิจการของบริษัทลูกหนี้ด้วยนั้นเจ้าหนี้ย่อมจะต้องทราบถึงฐานะของลูกหนี้ได้ดีว่าตกอยู่ในสภาพเช่นไรการที่เจ้าหนี้ได้รับชำระดอกเบี้ยจากตั๋วสัญญาใช้เงินแต่เพียงบางส่วนก็ดี ตลอดจนบริษัทลูกหนี้ต้องไปกู้ยืมเงินจากกลุ่มบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์และกลุ่มสมาคมผู้ประกอบธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์หลายบริษัทเพื่อเป็นทุนนำมาพยุงฐานะของลูกหนี้ที่กำลังทรุดลงก็ดีซึ่งปรากฏในเวลาต่อมาว่าสภาพการณ์ของบริษัทลูกหนี้ก็หาได้กระเตื้องขึ้นไม่จนผลสุดท้ายทางราชการได้มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตในการดำเนินธุรกิจของลูกหนี้เป็นเหตุให้บริษัทลูกหนี้จำต้องเลิกกิจการไปจากข้อเท็จจริงอันเป็นพฤติการณ์ของลูกหนี้ที่ปรากฏเช่นนี้ เจ้าหนี้ในฐานะกรรมการของบริษัทลูกหนี้ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการบริหารด้วยผู้หนึ่งจะมาปฏิเสธในภายหลังว่าไม่ทราบถึงฐานะอันแท้จริงของลูกหนี้ว่ามีหนี้สินล้นพ้นตัว จึงยอมให้ก่อหนี้ผูกพันตามจำนวนดังกล่าว จึงฟังไม่ขึ้น ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามเอกสารหมาย จ.16 ถึง จ.23 รวม 8 รายการด้วยนั้นศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย”
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามคำสั่งศาลชั้นต้น

Share