คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6/2487

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ไนเรื่องขอไห้เพิ่มโทสจำเลยนั้น แม้จำเลยยื่นคำไการรับสาลก็ยังต้องออกนั่งพิจารนาและสอบถามจำเลยเอง จึงจะถือว่าเปนคำไห้การรับตามกดหมาย
จำเลยไห้การรับไนเรื่องเพิ่มโทสต่อจ่าสาลแล้วจ่าสาลจดรายงานเสนอผู้พิพากสานั้นรับฟังไม่ได้
โจทแถลงต่อจ่าสาล ๆ จดรายงานเสนอผู้พิพากสาโดยโจทลงนามไนรายงานด้วยนั้น ถือว่าเปนคำแถลงของโจทได้
รายงานจ่าสาลเรื่องโจทแถลงหมดพยานแล้วลงชื่อโจทจำเลยและสาลสั่งไห้สีบพยานต่อไปนั้นถือว่าเปนรายงานพิจารนาและถือว่ามีรายการครบตามกดหมายแล้ว

ย่อยาว

โจทฟ้องขอไห้ลงโทสจำเลยถานรับของโจรและขอไห้เพิ่มโทสนายตุ้ยจำเลยตามมาตรา ๗๘ สากลสอบถามจำเลยเรื่องเคยต้องโทส จำเลยแถลงว่าเคยต้องโทสจิงแต่พ้นโทสเกิน ๘ ปีแล้ว ต่อมาจ่าสาลทำรายงานยืนต่อสาลโดยมีโจทจำเลยลงนามกำกับว่าจำเลยรับว่าเคยต้องโทสและพ้นโทสยังไม่เกินกำหนดจิง โจทว่า เมื่อจำเลยรับเรื่องต้องโทสก็หมดพยานเท่าที่สืบมาแล้ คือไม่สืบต่อไป สาลได้สอบถาจำเลย เปนแต่สั่งไห้นัดสืบพยานจำเลยต่อไป
ไนที่สุดสาลชั้นต้นลงโทสและเพิ่มโทสนายตุ้ย จำเลยตามมาตรา ๓๘๑ และ ๗๘
สาลอุธรน์เห็นว่าจะถือเอาตามรายงานจ่าสาลมาเพิ่มโทสไม่ได้ จึงไห้ยกข้อเพิ่มโทส แต่มีความเห็นแย้งว่าเพิ่มโทสได้
โจทดีกา สาลดีกาวินิฉัยว่า ตามวิธีพิจารนาความอาญามาตรา ๑๕๙ ถ้าโจทต้องการไห้เพิ่มโทสโจทจะต้องกล่าวมาไนฟ้องหรือยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้อง และตามมาตรา ๑๗๘ สาลจะต้องอ่านและอธิบายฟ้องไห้จำเลยฟังและถามว่าได้กะทำผิดจิงหรือไม่ จะไห้การต่อสู้หย่างไรบ้าง คำไห้การของจำเลยไห้จุดไว้ ฉนั้นคำไห้การเรื่องเพิ่มโทส จึงต้องไห้การต่อหน้าสาล หากยื่นเปนหนังสือสาลก็ต้องออกนั่งและสอบถาม และคำว่าสาลนั้นตามวิธีพิจารนาความอาญา ม. ๘(๑) หมายถึงสาลยุตติธัมหรือผู้พิพากสาที่มีอำนาด ฉนั้นรายงานของจ่าสสาลจึงไม่ถือว่าเปนคำไห้การรับ แต่คำแถลงของโจทไนรายงานจ่าสาลนั้นฟังได้ เพราะไม่มีกดหมายบังคับไว้เช่นคำไห้การจำเลย ข้อที่โจทว่าสาลสั่งสืบพยานจำเลยโดยไม่มีรายงานพิจารนาเรื่องโจทหมดพยานไว้ไหนสำนวน สาลดีกาเห็นว่าตามรายงานของจ่าสาลประกอบกับคำสั่งของผู้พิพากสานั้นถือว่าเปนรายงานพิจารนาและมีรายการครบถ้วนตามวิธีพิจานาความแพ่งมาตรา ๔๘ แล้ว คดีจะเพิ่มโทสจำเลยไม่ได้ จึงพิพากสายืนตามสาลอุธรน์

Share