คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 599/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องว่าจำเลยกับพวกร่วมกันฆ่าผู้อื่น ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายท้าทายให้จำเลยกับพวกขึ้นไปต่อสู้กันบนฝั่งแม่น้ำ พวกของจำเลยถือปืนยาวขึ้นไปบนฝั่งแต่ปรากฏว่าไม่มีกระสุนปืน พวกของจำเลยร้องตะโกนให้จำเลยหยิบกระสุนปืนไปให้ซึ่งจำเลยก็ทำตาม ต่อมาพวกของจำเลยทะเลาะกับผู้ตายและใช้อาวุธปืนนั้นยิงผู้ตายถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยเข้าลักษณะเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่พวกของจำเลยในการกระทำผิด ใช้อาวุธปืนยิงฆ่าผู้ตาย จำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดครั้งนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 86

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๓ และพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยเป็นผู้สนับสนุนให้นายณรงค์ฆ่านายสังวาลย์ผู้ตาย จึงพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๘๖ จำคุก ๑๒ ปี ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๘ ปี ริบของกลางและยกฟ้องข้อหาอื่น
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยกับนายณรงค์อยู่ที่เรือนแพของตนและส่งเสียงเอะอะมีการเคาะกระป๋องด้วย เข้าใจว่าคงจะดื่มสุรา ผู้ตายได้ไปร้องห้ามปรามมิให้ส่งเสียงดังก็ไม่ได้ผล จึงได้ร้องด่าท้ายทายให้ขึ้นมาบนฝั่งเพื่อต่อสู้กันแล้วนายณรงค์ถือปืนยาวขึ้นมาบนฝั่ง แต่ปรากฏว่าไม่มีกระสุนปืน นายณรงค์ร้องตะโกนให้จำเลยหยิบกระสุนปืนไปให้ ซึ่งจำเลยก็ทำตามและเอากระสุนปืนไปส่งให้นายณรงค์ต่อมานายณรงค์ได้ทะเลาะกับผู้ตายและใช้อาวุธปืนนั้นยิงผู้ตายจนเสียชีวิต แม้จะมีนางสาลี่เป็นประจักษ์พยานเพียงคนเดียว แต่ก็เบิกความได้ดีไม่มีข้อพิรุธ ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางวันและนางสาลี่อยู่ที่เรือนแพของตน ซึ่งอยู่ห่างเรือนแพจำเลยไม่มากนัก จึงเชื่อว่าต้องรู้เห็นเหตุการณ์จริง หลังเกิดเหตุนายเฉลี่ยวไปแจ้งความพาตำรวจมา นางสาลี่ก็บอกกล่าวเล่าเรื่องให้ฟังและยืนยันว่า จำเลยได้ร่วมกระทำผิดส่งกระสุนปืนให้นายณรงค์ตำรวจจึงไปติดตามจับจำเลยในวันนั้นและจำเลยก็ให้การรับสารภาพทั้งในชั้นจับกุมและสอบสวน โดยยอมรับว่าได้ส่งกระสุนปืนให้นายณรงค์นำไปใช้ยิงผู้ตายจริง เพราะโกรธเคืองที่ผู้ตายมาร้องด่าว่าจำเลยกับพวกมีรายละเอียดตามบันทึกเอกสารหมาย จ.๑ และ จ.๔ ที่จำเลยอ้างว่า มิได้รับสารภาพด้วยความสมัครใจและเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายบังคับให้รับสารภาพ คงมีตัวจำเลยเบิกความกล่าวอ้างลอย ๆ เท่านั้น และไม่ได้ความว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำร้ายจำเลยเป็นใครด้วย จึงไม่มีน้ำหนักพอให้รับฟังหักล้างพยานโจทก์ รูปคดีเชื่อว่า จำเลยได้ส่งกระสุนปืนให้นายณรงค์นำไปใช้ยิงผู้ตายเพราะโกรธเคืองตามที่เคยให้การไว้ในชั้นสอบสวนจริง และต่อมานายณรงค์ก็ใช้อาวุธปืนที่เตรียมมากับกระสุนปืนดังกล่าวยิงผู้ตายจนเสียชีวิต การกระทำของจำเลยเข้าลักษณะเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่นายณรงค์ในการกระทำผิดใช้อาวุธปืนยิงฆ่าผู้ตาย จำเลยจึงเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดครั้งนี้และจะต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๖ ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share