แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติศุลกากรบรรยายฟ้องด้วยว่าคดีมีผู้แจ้งความนำจับนำเจ้าพนักงานจับจำเลย และขอให้ศาลสั่งจ่ายเงินสินบนนำจับตามกฎหมาย ดังนี้ ย่อมถือได้ว่า พนักงานอัยการโจทก์ได้ร้องขอต่อศาลให้จ่ายเงินสินบนแทนผู้นำจับตามบทบัญญัติในมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.2489 แล้วและเมื่อคดีดังกล่าวศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ไม่มีผู้นำจับ โจทก์มิได้ฎีกาคัดค้าน และต่อมาศาลฎีกาพิพากษายืน คดีจึงต้องฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่มีผู้นำจับ ผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งจ่ายเงินนำจับแก่ผู้ร้องอันเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่ฟังเป็นยุติแล้วได้อีก
ย่อยาว
กรณีสืบเนื่องมาจากศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ที่พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร ให้ปรับจำเลยและให้จ่ายเงินรางวัลแก่เจ้าหน้าที่ซึ่งจับกุม หลังจากคดีถึงที่สุดแล้วผู้ร้องยื่นคำร้องว่า คดีนี้ผู้ร้องเป็นผู้แจ้งความนำจับจำเลยขอให้ศาลสั่งจ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้ร้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่า คดีนี้ไม่มีผู้นำจับผู้ร้องจะยื่นคำร้องขอให้ฟังข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามพระราชบัญญัติให้บำเหน็จในการปราบปรามผู้กระทำความผิด พ.ศ.๒๔๘๙ มาตรา ๙ บัญญัติว่า “ในการยื่นฟ้องผู้กระทำผิดซึ่งผู้นำจับหรือพนักงานเจ้าหน้าที่มีสิทธิจะได้รับเงินสินบนหรือรางวัลตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานอัยการร้องขอต่อศาลให้จ่ายสินบนหรือรางวัล” คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติศุลกากร ได้บรรยายมาในฟ้องด้วยว่าคดีมีผู้แจ้งความนำจับนำเจ้าพนักงานจับจำเลยและขอให้ศาลสั่งจ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้นำจับตามกฎหมาย กรณีถือได้ว่าพนักงานอัยการโจทก์ได้ร้องขอต่อศาลให้จ่ายเงินสินบนแทนผู้นำจับตามบทบัญญัติ มาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวแล้ว ซึ่งในการพิจารณาพิพากษาคดีมีปัญหาจะต้องวินิจฉัยด้วยว่า คดีมีผู้นำจับที่มีสิทธิได้เงินสินบนนำจับตามกฎหมายหรือไม่ และปัญหาข้อนี้ศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าคดีนี้ไม่มีผู้นำจับ และให้จ่ายเฉพาะเงินรางวัลแก่เจ้าหน้าที่ผู้จับกุม โจทก์มิได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คงมีแต่จำเลยฝ่ายเดียวฎีกาขอให้ยกฟ้องโจทก์และให้ยกคำขอเกี่ยวกับ เงินรางวัลของผู้จับกุม และต่อมาศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ฉะนั้น ปัญหาข้อที่ว่าคดีมีผู้นำจับหรือไม่ จึงต้องฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ว่าไม่มีผู้นำจับ ดังนี้ผู้ร้องย่อมไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งจ่ายเงินสินบนนำจับแก่ผู้ร้องโดยอ้างว่าเป็นผู้นำจับ อันเป็นการโต้เถียงข้อเท็จจริงที่ฟังเป็นยุติแล้วได้อีก ฎีกาข้ออื่นของผู้ร้องไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย
พิพากษายืน.