คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5988/2552

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

โจทก์มีหนังสือแจ้งการประเมินภาษีป้ายไปยังจำเลยจำนวน 2 ฉบับ ทุนทรัพย์ในการอุทธรณ์จึงต้องแยกพิจารณาตามหนังสือแจ้งการประเมินแต่ละฉบับ เพราะการประเมินภาษีป้ายแต่ละป้ายแต่ละปีภาษีสามารถแยกจากกันได้ ดังนั้น ภาษีป้ายตามหนังสือแจ้งการประเมินซึ่งมีทุนทรัพย์ที่พิพาท 15,400 บาท จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร ฯ มาตรา 25 จำเลยไม่ได้ให้การปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นเจ้าของป้ายตามฟ้อง คดีจึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทว่า จำเลยเป็นเจ้าของป้ายตามฟ้องหรือไม่ ที่ศาลภาษีอากรกลางวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นเจ้าของป้ายตามฟ้อง จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นเป็นการไม่ชอบและถือเป็นข้อที่ไม่ได้ว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลภาษีอากรกลาง ต้องห้ามอุทธรณ์ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจาณราคดีภาษีอากร ฯ มาตรา 29 ประกอบ ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคหนึ่ง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินค่าภาษีป้ายและเงินเพิ่มจำนวน 513,240 บาท และเงินเพิ่มในอัตราร้อยละสองต่อเดือน เศษของเดือนให้นับเป็นหนึ่งเดือนของจำนวนภาษีป้ายที่ต้องชำระจำนวน 182,000 บาท นับจากวันที่ 29 พฤษภาคม 2547 เป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จ
จำเลยให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้จำเลยชำระค่าภาษีป้ายและเงินเพิ่ม จำนวน 513,240 บาท แก่โจทก์ และให้จำเลยชำระเงินเพิ่มในอัตราร้อยละสองต่อเดือนเศษของเดือนให้นับเป็นหนึ่งเดือนของจำนวนภาษีป้ายที่ต้องชำระจำนวน 182,000 บาทนับจากวันที่ 29 พฤษภาคม 2547 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 6,000 บาท
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่ได้โต้แย้งกันฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2538 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2539 จำเลยได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์จัดทำป้ายโฆษณากิจกรรมโดยมีอักษรไทยปนกับรูปภาพมีข้อความหรือภาพหรือเครื่องหมายที่ปรากฏโดยย่อว่า “มหกรรมโคมไฟเฉลิมพระเกียรติ” ป้ายดังกล่าวได้มีการติดตั้งที่บนหลังคาอาคารตึกเลขที่ 311/3 ถนนวงศ์สว่าง แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร ในระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2538 ถึงเดือนมกราคม 2539 ต่อมาในเดือนมีนาคม 2539 จำเลยได้ติดตั้งป้ายใหม่มีข้อความว่า “เทศกาลบิ๊กฮอลิเดย์ 96 HOT ICE SHOW” โดยจำเลยมิได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีป้าย พนักงานเจ้าหน้าที่ของโจทก์ได้แจ้งการประเมินให้จำเลยชำระภาษีป้ายพร้อมเงินเพิ่มรวมเป็นเงิน 200,200 บาท ตามหนังสือแจ้งการประเมิน จำเลยได้รับหนังสือแจ้งการประเมินวันที่ 14 มีนาคม 2540 ครบกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่กำหนดให้จำเลยชำระ จำเลยไม่ชำระ พนักงานเจ้าหน้าที่ของโจทก์จึงมีหนังสือเตือนให้ชำระ แต่จำเลยก็ไม่ชำระและมิได้อุทธรณ์โต้แย้งการประเมิน
ปัญหาตามอุทธรณ์ของจำเลยที่ว่า จำเลยเป็นเจ้าของป้ายทั้งสองตามฟ้องหรือไม่ ประเด็นนี้จำเลยอุทธรณ์ว่า ป้ายทั้งสองตามฟ้องไม่ใช่ของจำเลยแต่เป็นของสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยจึงไม่มีหน้าที่ต้องชำระภาษีป้าย อันเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลภาษีอากรกลางจึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง เมื่อปรากฏว่า โจทก์มีหนังสือแจ้งการประเมินไปยังจำเลย จำนวน 3 ฉบับ ทุนทรัพย์ในการอุทธรณ์ จึงต้องแยกพิจารณาตามหนังสือแจ้งการประเมินแต่ละฉบับเพราะการประเมินภาษีป้ายแต่ละป้ายแต่ละปีภาษีสามารถแยกจากกันได้ ดังนั้นภาษีป้าย ตามหนังสือแจ้งการประเมินที่ รด. 5/2541 ซึ่งมีทุนทรัพย์ที่พิพาท 15,400 บาท จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.2528 มาตรา 25 ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรไม่รับวินิจฉัย คงมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยเฉพาะส่วนของภาษีป้ายตามหนังสือแจ้งการประเมินที่ รด. 6/2540 และ รด. 7/2540 ว่าจำเลยเป็นเจ้าของป้ายทั้งสองตามฟ้องหรือไม่เห็นว่าจำเลยยื่นคำให้การต่อสู้แต่เพียงว่า ป้ายทั้งสองตามฟ้องได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีป้ายและพนักงานเจ้าหน้าที่ของโจทก์ประเมินภาษีป้ายเกินกว่าจำนวนที่จำเลยต้องชำระ ทั้งมิได้แจ้งการประเมินให้จำเลยทราบ โดยจำเลยไม่ได้ให้การปฏิเสธว่า จำเลยไม่ได้เป็นเจ้าของป้ายทั้งสองตามฟ้อง คดีจึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทว่า จำเลยเป็นเจ้าของป้ายทั้งสองตามฟ้องหรือไม่ ที่ศาลภาษีอากรกลางวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นเจ้าของป้ายทั้งสองตามฟ้อง จึงเป็นการวินิจฉัยนอกประเด็นเป็นการไม่ชอบ และถือว่าปัญหาข้อเท็จจริงนี้เป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลภาษีอากรกลาง ต้องห้ามอุทธรณ์ในประเด็นดังกล่าว การที่จำเลยอุทธรณ์ปัญหานี้ขึ้นมาจึงไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ.2528 มาตรา 29 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกอุทธรณ์จำเลย ให้คืนค่าธรรมเนียมศาลทั้งหมดในชั้นอุทธรณ์แก่จำเลย ค่าทนายความชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

Share