แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ผู้ตายได้โอนที่ดินให้บุคคลอื่นไปในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ส่วนเงินฝากของผู้ตายในธนาคาร ผู้มีอำนาจในการถอนเงินได้ปิดบัญชีไปก่อนที่ผู้ร้องจะยื่นคำร้องขอให้ตั้งผู้จัดการมรดก จึงไม่มีเหตุขัดข้องในการจัดการหรือในการแบ่งปันมรดกของผู้ตายเพราะไม่มีทรัพย์มรดกของผู้ตายที่จะต้องจัดการ กฎหมายมิได้กำหนดเหตุให้ตั้งผู้จัดการมรดกเพื่อสืบหาทรัพย์มรดกของผู้ตายเพื่อนำมาจัดการผู้ร้องจึงไม่อาจร้องขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกได้
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องเป็นบุตรของนางสาวใจ สุโขธนัง ผู้ตายกับนายสุนสุโขธนัง ผู้ตายมีบุตร 8 คน คือ นางสายหยุด เพียรธรรม นางสายยงค์ แย้มนิล ผู้ร้องนางลำใย เพิ่มพิศาล นายบุญยืน สุโขธนัง นางสาวราภรณ์ สุโขธนัง นายทองสุข สุโขธนัง และนายอุดม สุโขธนัง เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2537 ผู้ตายถึงแก่ความตายด้วยเหตุชราภาพ มีทรัพย์มรดก คือ บัญชีเงินฝากเลขที่ 410-1-02139-3 ของธนาคารสหธนาคาร จำกัด (มหาชน) สาขาบ้านแหลม และที่ดินโฉนดเลขที่ 2749 ผู้ตายมิได้ทำพินัยกรรมไว้ ผู้ร้องเคยไปติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารและสำนักงานที่ดินเพื่อรับโอนมรดกมาแบ่งปันระหว่างทายาทแต่มีเหตุขัดข้อง จึงมายื่นคำร้องโดยได้รับความยินยอมจากทายาทแล้ว ผู้ร้องไม่เป็นบุคคลวิกลจริต ไม่เคยถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถหรือบุคคลล้มละลาย ขอให้มีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย
ผู้คัดค้านยื่นคำร้องคัดค้านว่า ผู้คัดค้านเป็นบุตรของผู้ตาย ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกโดยมิได้รับความยินยอมจากทายาทของผู้ตาย ทั้งผู้ร้องไม่เหมาะสมเป็นผู้จัดการมรดกรายนี้ประกอบกับผู้ตายไม่มีทรัพย์มรดกที่จะจัดการ เพราะบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผู้ร้องอ้างนั้นผู้มีอำนาจเบิกเงินในบัญชีได้ปิดบัญชีไปนานแล้ว ส่วนที่ดินโฉนดเลขที่ 2749 ผู้ตายได้โอนกรรมสิทธิ์ให้บุตรบางคนในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ขอให้ยกคำร้องขอของผู้ร้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งนายยิ่งยศ สุโขธนัง ผู้ร้อง เป็นผู้จัดการมรดกของนางสายใจสุโขธนัง ผู้ตาย กับให้มีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย
ผู้คัดค้านอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องขอของผู้ร้อง
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า ผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นบุตรของผู้ตายกับนายสุน สุโขธนัง มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันรวม8 คน ผู้ตายถึงแก่ความตาย เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2537 ตามสำเนามรณบัตรเอกสารหมาย ร.2 บัญชีเงินฝากเลขที่ 410-1-02139-3 ของธนาคารสหธนาคาร จำกัด (มหาชน)สาขาบ้านแหลมถูกปิดไปก่อนที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ตั้งผู้จัดการมรดก ส่วนที่ดินโฉนดเลขที่ 2749 ตำบลบ้านแหลม อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี ผู้ตายโอนกรรมสิทธิ์ให้บุคคลอื่นไปแล้วเช่นเดียวกัน คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า มีเหตุตามกฎหมายที่ผู้ร้องจะร้องขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกหรือไม่ โดยผู้ร้องฎีกาว่า ขณะที่ผู้ตายถึงแก่ความตายบัญชีเงินฝากเลขที่ 410-1-02139-3 ของธนาคารสหธนาคาร จำกัด(มหาชน) สาขาบ้านแหลม ซึ่งผู้ตายเป็นเจ้าของบัญชีมีเงินฝากอยู่ 157,446.68 บาทอันเป็นมรดกของผู้ตายและอาจมีทรัพย์มรดกอื่นอีกที่ผู้ร้องติดตามรวบรวมเพื่อนำมาแบ่งปันให้แก่ทายาทโดยผู้ร้องไม่จำต้องระบุไว้ในคำร้องขอจัดการมรดกนั้น เห็นว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713 กำหนดเหตุในการร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดก 3 กรณี คือ (1) เมื่อเจ้ามรดกตายทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรมได้สูญหายไป หรืออยู่นอกราชอาณาเขต หรือเป็นผู้เยาว์ (2) เมื่อผู้จัดการมรดกหรือทายาทไม่สามารถ หรือไม่เต็มใจที่จะจัดการ หรือมีเหตุขัดข้องในการจัดการ หรือในการแบ่งปันมรดก หรือ (3) เมื่อข้อกำหนดพินัยกรรมซึ่งตั้งผู้จัดการมรดกไว้ ไม่มีผลบังคับได้ด้วยประการใด ๆ เมื่อเหตุที่ผู้ร้องมายื่นคำร้องขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกเป็นกรณีที่ 2 คือมีเหตุขัดข้องในการจัดการหรือในการแบ่งปันมรดก แต่ข้อเท็จจริงปรากฏตามทางไต่สวนว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 2749 ผู้ตายได้โอนให้บุคคลอื่นไป ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ จึงไม่เป็นทรัพย์มรดกของผู้ตาย ส่วนเงินฝากในบัญชีเลขที่ 410-1-02139-3 ของธนาคารสหธนาคาร จำกัด (มหาชน) นั้น ผู้มีอำนาจในการถอนเงินจากบัญชีดังกล่าวได้ปิดบัญชีไปก่อนที่ผู้ร้องจะยื่นคำร้องขอให้ตั้งผู้จัดการมรดก อันเป็นการดำเนินการโดยชอบตามเงื่อนไขในคำขอเปิดบัญชีเงินฝากเอกสารหมาย ร.4 ที่ทำไว้กับธนาคารสหธนาคารจำกัด (มหาชน) เมื่อเป็นเช่นนี้จึงไม่มีเหตุขัดข้องในการจัดการหรือในการแบ่งปันมรดกของผู้ตายเพราะไม่มีทรัพย์มรดกของผู้ตายที่จะต้องจัดการ กฎหมายมิได้กำหนดเหตุให้ตั้งผู้จัดการมรดกเพื่อสืบหาทรัพย์มรดกของผู้ตายเพื่อนำมาจัดการแต่อย่างใด ไม่มีเหตุตามกฎหมายที่ผู้ร้องจะร้องขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำสั่งให้ยกคำร้องขอของผู้ร้องนั้นชอบแล้ว ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน