คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5931/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 7 (1) บัญญัติว่าเฮโรอีนเป็นยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรง ประเภท 1 แล้ว โจทก์จึงไม่ต้องนำสืบว่ามีประกาศกระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้เฮโรอีนเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 และปิดประกาศให้ประชาชนทราบแล้วอีก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔, ๗, ๘, ๑๕, ๖๖ ที่แก้ไขแล้ว ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ คืนธนบัตรของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๔, ๗, ๘, ๑๕, ๖๖ ที่แก้ไขแล้วประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑ เรียงกระทงลงโทษ จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๘ ปี คืนธนบัตรของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ มาตรา ๖๖ วรรคหนึ่ง ที่แก้ไขแล้วนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒มาตรา ๗ บัญญัติว่า “ยาเสพติดให้โทษแบ่งเป็น ๕ ประเภท คือ(๑) ประเภท ๑ ยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรง เช่น เฮโรอีน…….”ฉะนั้น เฮโรอีนจึงเป็นยาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ โดยบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวอยู่แล้ว โดยไม่ต้องมีประกาศของกระทรวงสาธารณสุขระบุไว้แต่อย่างใด การมีประกาศกระทรวงสาธารณสุขระบุว่าเฮโรอีนเป็นยาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ ก็ดีและการปิดประกาศให้ประชาชนทราบก็ดี มิใช่องค์ประกอบความผิดของข้อหาที่โจทก์ฟ้องในคดีนี้โจทก์จึงไม่ต้องนำสืบว่าได้มีประกาศกระทรวงสาธารณสุขประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วว่า เฮโรอีนเป็นยาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑และได้ปิดประกาศให้ประชาชนทราบแล้ว
พิพากษายืน.

Share