แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำฟ้องที่ไม่เคลือบคลุม
จำเลยรับฝากข้าวเปลือกของโจทก์ไว้เพื่อโจทก์จะได้เป็นผู้ขายตามราคาที่กำหนด แต่จำเลยเอาข้าวเปลือกไปขายเสียจำเลยจึงต้องใช้ราคาข้าวเปลือกให้แก่โจทก์ อายุความที่จะใช้สิทธิเรียกร้องมีกำหนด 10 ปี
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2505 จำเลยได้ไปพูดขอรับรองฝากข้าวเปลือกจ้าวของโจทก์ น้ำหนัก 14,104 กิโลกรัมราคา 11,283.20 บาท ไปเก็บไว้ที่ฉางข้าวในเมืองศรีสะเกษ โดยตกลงกันว่าเมื่อข้าวเปลือกขึ้นราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 80 สตางค์เมื่อไรก็ขอให้โจทก์ไปขายเอาเงินเมื่อนั้น ส่วนจำเลยมีสิทธิได้ค่าระวางบรรทุกกิโลกรัมละ 6 สตางค์ เมื่อขายข้าวได้แล้วให้หักเอา ต่อมาวันรุ่งขึ้นจำเลยเอารถยนต์ไปบรรทุกข้าวเปลือกจ้าวของโจทก์มาเก็บไว้ที่ฉางข้าวในเมืองศรีสะเกษตามที่ตกลงกัน ต่อมาในเดือนตุลาคม2505 โจทก์จะจัดการขายข้าวเปลือกของโจทก์ตามที่ตกลงกัน จำเลยบอกว่าได้ขายข้าวของโจทก์หมดแล้ว จะหาเงินมาชำระให้ โจทก์ทวงถามหลายครั้ง แต่จำเลยยังไม่ชำระให้ จึงฟ้องขอให้ศาลบังคับ
จำเลยต่อสู้ว่า ตามที่โจทก์บรรยายฟ้องตอนต้นเสมือนหนึ่งว่าจำเลยเป็นผู้รับฝากข้าวเปลือกจากโจทก์ แต่ตอนท้ายกลับมีข้อความทำนองว่าจำเลยรับขนข้าวของโจทก์ไปฝากฉางที่ในเมือง ฟ้องโจทก์จึงเคลือบคลุม จำเลยไม่เคยตกลงรับฝากหรือรับขนไปฝากฉางดังที่โจทก์ฟ้อง ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าข้าวเปลือก 4,834 บาทพร้อมทั้งดอกเบี้ย
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมและขาดอายุความ
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามฟ้องของโจทก์นั้น ข้อความแสดงชัดว่าจำเลยอยู่ในฐานะเป็นผู้รับฝากข้าวเปลือกไว้เพียงชั่วคราว เพื่อรอให้ราคาข้าวเปลือกขึ้นสูงถึงกิโลกรัมละ 80 สตางค์เมื่อไรก็ให้โจทก์ไปขายเอาเงินเมื่อนั้น เมื่อขายข้าวเปลือกได้แล้วจำเลยได้ค่าระวางบรรทุกเพียงกิโลกรัมละ 6 สตางค์ สารสำคัญมิได้อยู่ที่การรับขนข้าวแต่อย่างใด เพราะเมื่อรับฝากก็ต้องจัดการขนเอาไปคำฟ้องของโจทก์แสดงชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ และคำบังคับทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 แล้ว
ส่วนปัญหาข้อหลังเห็นว่าเป็นเรื่องจำเลยรับฝากข้าวเปลือกไว้เพื่อโจทก์จะได้เป็นผู้ขายตามราคาที่กำหนด แต่จำเลยเอาข้าวเปลือกของโจทก์ไปขายเสีย จำเลยต้องใช้ราคาข้าวเปลือกที่ยังขาดอยู่ให้โจทก์ กรณีเป็นเรื่องเรียกราคาข้าวเปลือกที่ยังขาดอยู่อายุความที่จะใช้สิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้รายนี้มีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 ไม่ใช่มีกำหนดอายุความ 2 ปี ดังที่จำเลยฎีกา
พิพากษายืน