คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยตาม พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯฐานมีอาวุธปืน 4 ปี ฐานพกอาวุธปืน 1 ปี ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกรวม 2 กระทง 2 ปี 6 เดือนริบของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ฐานมีอาวุธปืนเป็นจำคุก 2 ปีลดโทษแล้ว จำคุก 2 กระทง 1 ปี 6 เดือนจำเลยฎีกาข้อเท็จจริงได้เฉพาะฐานมีอาวุธปืนซึ่งแก้มากฐานพกปืนฎีกาไม่ได้คดีที่จำเลยรับสารภาพตามฟ้องศาลฟังข้อเท็จจริงตามที่โจทก์อ้างในฎีกาและจำเลยมิได้แก้ฎีกาเป็นอย่างอื่นเป็นเหตุผลในการวินิจฉัย ไม่ควรรอการลงโทษได้ ในการกำหนดโทษใหม่ ศาลฎีกาลดโทษฐานอายุน้อยให้จำเลยก็ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2521 เวลากลางคืนหลังเที่ยงจำเลยมีอาวุธปืนลูกซองสั้น ไม่มีหมายเลขทะเบียนจำนวน 1 กระบอก และมีกระสุนปืนลูกซองจำนวน 2 นัด ซึ่งใช้ยิงได้ไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ตามกฎหมายและได้พาอาวุธปืนกับกระสุนปืนติดตัวไปในหมู่บ้านและทางสาธารณะ โดยจำเลยไม่มีใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวได้ตามกฎหมาย และโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแห่งพฤติการณ์ เหตุเกิดที่ตำบลไม้เรียงอำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราชขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 44 พ.ศ. 2519 ข้อ 3, 6, 7ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 91 ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 พ.ศ. 2514ข้อ 2 ให้ริบของกลาง

จำเลยให้การรับสารภาพ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ คำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดินฉบับที่ 44พ.ศ. 2514 ข้อ 3, 6, 7 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 91 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 พ.ศ. 2514 ข้อ 2 ลงโทษฐานมีอาวุธปืนไม่รับอนุญาตให้จำคุก 4 ปี ลงโทษฐานพกอาวุธปืน จำคุก 1 ปี รวมจำคุก 5 ปี ลดโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลย 2 ปี 6 เดือนของกลางริบ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ลงโทษฐานมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตจำคุก 2 ปี ฐานพกอาวุธปืนจำคุก 1 ปี รวมจำคุก 3 ปี ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 6 เดือน ให้รอการลงโทษไว้ในกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยในชั้นนี้ว่าจะสมควรลดโทษและรอการลงโทษจำคุกจำเลยตามคำพิพากษาว่าศาลอุทธรณ์หรือไม่ ได้พิเคราะห์แล้ว คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลย และเมื่อลดโทษให้กึ่งหนึ่งแล้ว คงจำคุกฐานมีอาวุธปืนไม่รับอนุญาตมีกำหนด 2 ปี และจำคุกฐานพกพาอาวุธปืนมีกำหนด 6 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำคุกฐานมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตมีกำหนด 1 ปี ส่วนฐานพกพาอาวุธปืน คงให้จำคุกมีกำหนด 6 เดือนเท่าเดิมแล้วให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยไว้ สำหรับความผิดฐานพกพาอาวุธปืน ซึ่งศาลอุทธรณ์ยังคงให้ลงโทษจำคุกจำเลยไม่เกินกำหนดหนึ่งปีโจทก์จะฎีกาขอไม่ให้รอการลงโทษจำคุกจำเลย ซึ่งเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ตามที่มาตรา 219 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2517 มาตรา 6ได้บัญญัติห้ามไว้ ส่วนความผิดฐานมีอาวุธปืนไม่รับอนุญาต ซึ่งศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้โทษให้เบาลงและให้รอการลงโทษจำคุก อันเป็นการพิพากษาแก้ไขมาก โจทก์จึงฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้

ศาลฎีกาได้พิเคราะห์แล้ว สำหรับโทษของจำเลยในฐานมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจกำหนดให้น้อยลงจากจำคุก 4 ปีเหลือจำคุก 2 ปี เพื่อให้เหมาะสมแก่รูปคดีนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย และศาลฎีกาเห็นต่อไปว่า จำเลยคดีนี้เมื่อคำนวณถึงวันกระทำผิดยังมีอายุไม่เกิน20 ปี สมควรจะลดมาตราส่วนโทษลงกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 76 ด้วย ส่วนเรื่องการรอการลงโทษจำคุกนั้น โจทก์อ้างในฎีกาว่าจังหวัดนครศรีธรรมราช มีโจรผู้ร้ายชุกชุม และส่วนมากใช้ปืนเป็นอาวุธ จนทางจังหวัดต้องประกาศห้ามประชาชนนำปืนออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด ซึ่งจำเลยมิได้แก้ฎีกาให้เห็นเป็นอย่างอื่นประกอบกับได้มีคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 พ.ศ. 2519 เพิ่มอัตราโทษการกระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยอาวุธปืนให้สูงขึ้น เพื่อรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยภายในประเทศและให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยจากอาชญากรรม เมื่อพิเคราะห์ถึงสภาพของจังหวัดนครศรีธรรมราชตามที่โจทก์อ้าง ประกอบกับเจตนารมณ์ของกฎหมายในเรื่องนี้แล้ว ศาลฎีกาเห็นไม่สมควรที่จะรอการลงโทษให้จำเลย

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลดมาตราส่วนโทษของความผิดที่จะลงแก่จำเลยกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76 คงจำคุกจำเลยในความผิดฐานมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต มีกำหนด 1 ปี ฐานพกพาอาวุธปืนมีกำหนด6 เดือน ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กึ่งหนึ่ง คงจำคุกฐานมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตมีกำหนด 6 เดือน และฐานพกพาอาวุธปืนมีกำหนด 3 เดือน โดยไม่รอการลงโทษความผิดฐานมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share