แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องว่าจำเลยปลอมหนังสือซึ่งโจทก์กู้เงินจำเลย ฟ้องของโจทก์กล่าวถึงวันที่โจทก์ไปร้องต่ออำเภอขอชำระหนี้แก่จำเลยอย่างเดียวดังนี้ ถือว่าฟ้องไม่ระบุเวลาที่หาว่ากระทำผิดตามสมควร ต้องยกฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2489 เวลากลางวันโจทก์ได้ร้องเรียนต่อกรมการอำเภอ ขอให้เรียกจำเลยมาเพื่อรับชำระหนี้ซึ่งได้กู้เงินจำเลยไป 300 บาท จำเลยไม่ยอมรับได้นำสัญญาซึ่งจำเลยได้ทำปลอมขึ้นแล้วไปแสดงต่อกรมการอำเภอปรากฏว่าได้เป็นหนี้จำเลย 1,300 บาท หาใช่ 300 บาทไม่ เพราะจำเลยได้เพิ่มเติมเลข 1 ขึ้นเป็น 1,300 บาท ซึ่งไม่เป็นความจริง กรมการอำเภอเปรียบเทียบไม่ตกลงได้ยึดหนังสือซึ่งจำเลยได้ทำปลอมขึ้นไว้ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 222, 223, 225
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยได้กระทำผิด จึงพิพากษาลงโทษฐานปลอมหนังสือ มาตรา 224
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ฟ้องของโจทก์ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) คือไม่กล่าวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาซึ่งเกิดการกระทำผิดพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามที่โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำหนังสือปลอมโจทก์มิได้กล่าวถึงวันเดือนปีที่จำเลยได้กระทำผิดเลยแม้แต่ประมาณก็ไม่ได้ประมาณ ไม่ปรากฏเลยว่าจำเลยได้นำสัญญาที่ปลอมขึ้นไปแสดงเมื่อใด ฟ้องโจทก์จึ่งขาดความสำคัญไม่ระบุรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลา ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์