คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5788/2549

แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ

ย่อสั้น

การที่จำเลยมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตถือว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 7 แล้ว เมื่อจำเลยพาอาวุธปืนติดตัวไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและไม่มีเหตุสมควร ทั้งไม่เป็นกรณีต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ จึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง อีกกรรมหนึ่ง แยกต่างหากจากกัน
ตาม ป.อ. มาตรา 92 บัญญัติว่า “ผู้ใดต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก ถ้าและได้กระทำความผิดใด ๆ อีกในระหว่างที่ยังจะต้องรับโทษอยู่ก็ดี ภายในเวลา 5 ปี นับแต่วันพ้นโทษก็ดี หากศาลจะพิพากษาลงโทษครั้งหลังถึงจำคุกก็ให้เพิ่มโทษที่จะลงแก่ผู้นั้นหนึ่งในสามของโทษที่ศาลกำหนดสำหรับความผิดครั้งหลัง” บทบัญญัติกฎหมายดังกล่าวมิได้กำหนดว่า ความผิดครั้งหลังจะต้องเป็นความผิดเดียวกันกับความผิดครั้งแรก เมื่อจำเลยกระทำความผิดคดีนี้ภายใน 5 ปี นับแต่วันพ้นโทษในคดีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย แม้ความผิดคดีนี้จะมิใช่ความผิดเดียวกันกับความผิดดังกล่าวก็อยู่ในเกณฑ์ตามกฎหมายที่ศาลจะเพิ่มโทษจำเลยหนึ่งในสามของโทษที่ศาลกำหนดสำหรับความผิดในคดีนี้ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 4, 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91, 92, 371 และเพิ่มโทษจำเลย
จำเลยให้การรับสารภาพ และรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์อ้างเป็นเหตุขอให้เพิ่มโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 7, 8 ทวิ วรรคหนึ่ง, 72 วรรคสาม, 72 ทวิ วรรคสอง ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานมีอาวุธปืน (ที่ถูก และเครื่องกระสุนปืน) ไว้ในครอบครอง จำคุก 6 เดือน ฐานพาอาวุธปืน เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 เป็นจำคุกกระทงละ 8 เดือน รวมจำคุก 16 เดือน จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 8 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 7 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า ข้อหามีอาวุธปืนมีทะเบียนของบุคคลอื่นไว้ในครอบครอง และข้อหาพาอาวุธปืนเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยต่างกรรมกัน เป็นการลงโทษที่ซ้ำซ้อนนั้น เห็นว่า การที่จำเลยมีอาวุธปืนของกลางไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตถือว่าเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 7 แล้ว และการที่จำเลยพาอาวุธปืนของกลางติดตัวไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและไม่มีเหตุสมควร ทั้งไม่เป็นกรณีต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ การกระทำของจำเลยในส่วนนี้จึงเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 8 ทวิ วรรคหนึ่ง อีกกรรมหนึ่ง มิได้ซ้ำซ้อนเป็นกรรมเดียวกัน ที่ศาลล่างทั้งสองเรียงกระทงลงโทษจำเลยเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 จึงชอบแล้ว ฎีกาข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น
ส่วนที่จำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายต่อไปว่า การที่ศาลล่างทั้งสองเพิ่มโทษจำเลยหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ จำเลยฎีกาว่า จำเลยเคยต้องโทษฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง และในเวลา 5 ปี นับแต่พ้นโทษจำเลยได้กลับมากระทำความผิดอีกความผิดที่จำเลยกระทำมิใช่ความผิดเดียวกันกับที่เคยได้รับโทษ จะถือว่าจำเลยกลับมากระทำความผิดอีก อันเป็นเหตุให้ศาลล่างทั้งสองเพิ่มโทษจำเลยหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 ไม่ได้นั้น เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 บัญญัติว่า “ผู้ใดต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก ถ้าและได้กระทำความผิดใด ๆ อีกในระหว่างที่ยังจะต้องรับโทษอยู่ก็ดี ภายในเวลา 5 ปี นับแต่วันพ้นโทษก็ดี หากศาลจะพิพากษาลงโทษครั้งหลังถึงจำคุกก็ให้เพิ่มโทษที่จะลงแก่ผู้นั้นหนึ่งในสามของโทษที่ศาลกำหนดสำหรับความผิดครั้งหลัง” บทบัญญัติกฎหมายดังกล่าวมิได้กำหนดว่า ความผิดครั้งหลังจะต้องเป็นความผิดเดียวกันกับความผิดครั้งแรก เมื่อจำเลยกระทำความผิดคดีนี้ภายใน 5 ปี นับแต่วันพ้นโทษในคดีความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครองครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย แม้ความผิดคดีนี้จะมิใช่ความผิดเดียวกันกับความผิดดังกล่าว ก็อยู่ในเกณฑ์ตามกฎหมายที่ศาลจะเพิ่มโทษจำเลยหนึ่งในสามของโทษที่ศาลกำหนดสำหรับความผิดในคดีนี้ได้ ดังนั้น ที่ศาลล่างทั้งสองเพิ่มโทษจำเลยหนึ่งในสามของโทษที่ศาลกำหนดในความผิดตามฟ้องทั้งสองฐานจึงชอบแล้ว ฎีกาข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share