คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 884/2484

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจมีสุราเถื่อน แม้มิได้กล่าวว่าจำเลยรู้ว่าเป็นสุราเถื่อนก็แสดงอยู่ในตัวว่าจำเลยรู้ว่าเป็นสุราเถื่อน นับว่าเป็นฟ้องที่สมบูรณ์แล้ว
อ้างฎีกาที่ 665/2480

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่านายกาจำเลยบังอาจมีน้ำสุราเถื่อน(น้ำขาวดองเมา) ไว้ในความครอบครอง จำเลยอื่นนอกจากนายกาบังอาจสมคบกันดื่มกินน้ำขาวดองเมาที่นายกามีไว้ขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษนายกาตามพระราชบัญญัติภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๔๗๖ มาตรา ๘ ลงโทษจำเลยอื่นตามพระราชบัญญัติภาษีชั้นใน จ.ศ.๑๒๔๘ ม.๖
นายกาจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าโจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่านายกาจำเลยบังอาจมีน้ำสุราเถื่อนไว้ในครอบครองในความพิทักษ์ควบคุมดูแล ไม่มีข้อความว่าจำเลยรู้ว่าเป็นสุราอันผิดกฎหมายซึ่งเป็นข้อความสำคัญตามพระราชบัญญัติภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.๒๔๗๖ มาตรา ๘ ฟ้องของโจทก์หาเป็นฟ้องที่จะรับพิจารณาไม่(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ ๒๖๒/๒๔๘๒) จึงไม่ต้องพิจารณาคำพะยาน พิพากษายกข้อหาฉะเพาะนายกาจำเลย
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าตามคำพิพากษาฎีกาที่ ๒๖๒/๒๔๘๒ นั้น ศาลฎีกาพิจารณาข้อเท็จจริงซึ่งศาลวินิจฉัยว่าที่จำเลยให้การว่ามีสุราเถื่อนจริง ไม่มีความที่จะแปลว่าจำเลยได้ทราบมาก่อนจับว่าสุรานั้นเป็นสุราผิดกฎหมาย มิได้ยกฟ้องในข้อกฎหมายว่าฟ้องของโจทก์ไม่เป็นฟ้องที่จะรับไว้พิจารณา ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าโจทก์ไม่ได้กล่าวว่านายกาจำเลยรู้ว่าเป็นสุราที่ผิดกฎหมาย โดยอ้างคำพิพากษาฎีกาที่ ๒๖๒/๒๔๘๒ ว่าไม่เป็นฟ้องที่จะรับไว้พิจารณาจึงตกไป คดีที่พอเทียบได้กับคดีนี้ คือคำพิพากษาฎีกาที่ ๖๖๕/๒๔๘๐ ซึ่งศาลฎีกากล่าวว่า ตามฟ้องโจทก์ที่กล่าวว่า “จำเลยบังอาจลักลอบมีน้ำสุราเถื่อนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตนั้น” แสดงอยู่แล้วว่าจำเลยรู้ว่าสุรานี้เป็นสุราเถื่อน จึงพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาชี้ขาดข้อเท็จจริงสำหรับนายกาจำเลยแล้ว พิพากษาใหม่

Share