คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 578/2537

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การที่ศาลชั้นต้นสอบข้อเท็จจริงถึงเหตุที่ผู้ร้องขอถอนผู้คัดค้านออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกโดยจดไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาและให้คู่ความลงชื่อไว้ ถือได้ว่าเป็นการไต่สวนแล้ว ฉะนั้นเมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏเหตุที่สมควรเพิกถอนผู้คัดค้านออกจากการเป็นผู้จัดการมรดก ศาลชั้นต้นจึงวินิจฉัยยกคำร้องโดยไม่สืบพยานได้

ย่อยาว

ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของนายยิ้ม ศรีนวลผู้ตาย มีทรัพย์มรดก คือ อาวุธปืนและทรัพย์อื่น ๆ อีก ศาลชั้นต้นได้ประกาศนัดไต่สวนตามระเบียบแล้วมีนายสนธยา ศรีนวล ยื่นคำร้องคัดค้านว่า ผู้คัดค้านเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย ผู้ร้องไม่สมควรเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย ขอให้ยกคำร้องของผู้ร้องและตั้งผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดก ในวันนัดไต่สวน ผู้ร้องและผู้คัดค้านตกลงกันได้โดยขอเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกัน
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งตั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกของนายยิ้ม ศรีนวล ผู้ตายร่วมกัน ให้มีสิทธิหน้าที่ตามกฎหมาย
ต่อมาผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนผู้คัดค้านจากการเป็นผู้จัดการมรดกอ้างว่า ก่อนผู้ตายถึงแก่ความตาย ผู้ตายมีเงินฝากอยู่ที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด สาขาฉะเชิงเทรา ประเภทฝากประจำจำนวน 107,487.63 บาท และประเภทออมทรัพย์จำนวน 910.70 บาทผู้คัดค้านได้ถอนเงินไปจากธนาคารดังกล่าวเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม2531 ชั้นไต่สวนคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ผู้คัดค้านได้เบิกความว่า “นอกจากอาวุธปืนแล้วผู้ตายไม่มีทรัพย์อื่น” ทั้งที่ผู้คัดค้านได้ถอนเงินจากธนาคารดังกล่าวไปแล้ว การกระทำของผู้คัดค้านทำให้เสื่อมประโยชน์แก่ทายาทอื่นถือว่าผู้คัดค้านทำผิดหน้าที่และไม่มีเหตุสมควรอย่างอื่นที่จะเป็นผู้จัดการมรดก ขอให้เพิกถอนผู้คัดค้านจากการเป็นผู้จัดการมรดก
ผู้คัดค้านคัดค้านว่า ก่อนผู้ตายถึงแก่ความตาย ผู้ตายได้สั่งให้ผู้คัดค้านไปถอนเงินฝากมาจัดการศพของผู้ตาย หลังจากจัดการศพของผู้ตายแล้ว ศาลชั้นต้นจึงได้มีคำสั่งตั้งผู้ร้องและผู้คัดค้านเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกัน ผู้คัดค้านได้เรียกประชุมทายาทเพื่อแบ่งเงินที่เหลือจากการจัดการศพของผู้ตายให้แก่ทายาท แต่ผู้ร้องไม่ยินยอมโดยผู้ร้องจะเอาส่วนแบ่งมากกว่าที่ผู้ร้องมีสิทธิจะได้รับ จึงทำให้ไม่สามารถจัดการมรดกต่อไปได้ ผู้คัดค้านไม่ได้ปิดบังทรัพย์มรดกของผู้ตาย ขอให้ยกคำร้อง
ในวันนัดไต่สวน ศาลชั้นต้นสอบผู้ร้องและผู้คัดค้าน ผู้ร้องแถลงว่าทรัพย์มรดกของผู้ตายมี 3 รายการ คือ บ้านซึ่งได้รื้อถอนขณะที่ผู้ตายยังมีชีวิตอยู่ ผู้ร้องไม่ติดใจ อาวุธปืนพก 1 กระบอกยังไม่ได้ตกลงว่าจะจัดการอย่างไร คงมีปัญหาเรื่องเงินที่ยังตกลงแบ่งกันไม่ได้ นอกจากนี้ไม่มีทรัพย์อื่น ผู้คัดค้านแถลงว่า ได้ถอนเงินจากธนาคารไปจัดการศพของผู้ตายเหลือบางส่วนยังตกลงกันไม่ได้ศาลชั้นต้นเห็นว่า ตามที่คู่ความแถลงเป็นเรื่องของการจัดการแบ่งทรัพย์มรดกที่ไม่สามารถตกลงกันได้ ไม่มีข้อเท็จจริงอื่นที่จะเป็นเหตุอ้างในการเพิกถอนผู้คัดค้านจากการเป็นผู้จัดการมรดกจึงมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องมีว่า ศาลชั้นต้นยกคำร้องโดยไม่สืบพยานชอบหรือไม่ ข้อนี้ในวันนัดไต่สวนคำร้อง ศาลชั้นต้นได้สอบถามผู้ร้องถึงเหตุที่ผู้ร้องขอถอนผู้คัดค้านออกจากการเป็นผู้จัดการมรดก ผู้ร้องแถลงว่า ทรัพย์มรดกของผู้ตายมี 3 รายการ คือ บ้านได้รื้อไปขณะผู้ตายยังมีชีวิตอยู่ผู้ร้องไม่ติดใจ อาวุธปืนพก 1 กระบอก ยังไม่ตกลงว่าจะจัดการอย่างไร คงมีปัญหาเรื่องเงินที่ยังตกลงแบ่งกันไม่ได้ นอกจากนี้ไม่มีทรัพย์มรดกอื่น ผู้คัดค้านแถลงว่า ได้ถอนเงินของผู้ตายจากธนาคารเพื่อจัดการศพผู้ตายเหลือบางส่วนยังตกลงกันไม่ได้ เห็นว่าการที่ศาลชั้นต้นสอบข้อเท็จจริงถึงเหตุที่ผู้ร้องขอถอนผู้คัดค้านออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกโดยจดไว้ในรายงานกระบวนพิจารณา และให้คู่ความลงชื่อไว้ ถือได้ว่าเป็นการไต่สวนแล้ว เมื่อข้อเท็จจริงได้ความจากผู้ร้องและผู้คัดค้านฟังยุติว่า การจัดการมรดกคงมีปัญหาเฉพาะเรื่องเงินเท่านั้นที่ยังตกลงแบ่งกันไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่ผู้คัดค้านในฐานะผู้จัดการมรดกละเลยไม่จัดการมรดกตามหน้าที่ และจากการสอบข้อเท็จจริงก็ไม่ปรากฏเหตุอื่นที่สมควรเพิกถอนผู้คัดค้านออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกศาลชั้นต้นจึงวินิจฉัยยกคำร้องโดยไม่สืบพยานได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน

Share