คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5697/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปัญหาที่ว่าโจทก์ใช้ทางพิพาทโดยครอบครองต่อจากเจ้าของเดิมตลอดมานั้นแม้โจทก์มิได้บรรยายฟ้องไว้ก็เป็นข้อเท็จจริงในประเด็นข้ออ้างของโจทก์ที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเป็นรายละเอียดของการใช้ทางพิพาทที่โจทก์มีสิทธินำสืบได้ในชั้นพิจารณามิใช่ข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น โจทก์นำสืบว่าทางพิพาทตกเป็นทางภารจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินแปลงอื่นที่โจทก์ซื้อมาจากล. มิใช่โจทก์ใช้ทางพิพาทเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินตามฟ้องจึงเป็นการนำสืบนอกคำฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3 ก.) เลขที่ 6 และเลขที่ 936 จำเลยที่ 1เป็นเจ้าของที่ดินตาม น.ส.3 ก. เลขที่ 382 ซึ่งอยู่ติดกับที่ดินของจำเลยที่ 2 ตาม น.ส.3 ก. เลขที่ 380 โจทก์ได้ใช้ทางเดินจากทางสาธารณะ ผ่านที่ดินของผู้มีชื่อหลายรายและผ่านที่ดินของจำเลยทั้งสองไปสู่ที่ดินโจทก์เป็นเวลาเกิน 10 ปีแล้ว ทางที่ผ่านที่ดินของจำเลยทั้งสองตกเป็นภารจำยอมแก่ที่ดินของโจทก์แล้ว ต่อมาจำเลยทั้งสองได้ขัดขวางไม่ให้โจทก์ผ่านทางดังกล่าวเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองเปิดทาง และให้จำเลยทั้งสองจดทะเบียนทางภารจำยอมในที่ดินดังกล่าว
จำเลยที่ 1 ให้การว่า โจทก์ไม่เคยใช้ทางดังกล่าวมาก่อนเลยขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ให้การและแก้ไขคำให้การว่า โจทก์ใช้ทางพิพาทไม่ถึง 10 ปี โจทก์ใช้ทางพิพาทโดยถือวิสาสะ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปัญหาที่โจทก์ฎีกาว่าโจทก์ใช้ทางพิพาทมานานกว่า 10 ปี โดยครอบครองต่อจากเจ้าของเดิมตลอดมานั้นแม้โจทก์มิได้บรรยายฟ้องไว้ก็เป็นข้อเท็จจริงในประเด็นข้ออ้างของโจทก์ที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาตามฟ้องโดยเป็นรายละเอียดของการใช้ทางพิพาทที่โจทก์มีสิทธินำสืบได้ในชั้นพิจารณา มิใช่เป็นที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น จึงมีปัญหาว่าโจทก์ใช้ทางพิพาทมานานกว่า10 ปี โดยครอบครองต่อจากเจ้าของเดิมตลอดมาหรือไม่ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่ายังฟังไม่ได้ว่า ทางพิพาทตกเป็นทางภารจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินของโจทก์ทั้ง 2 แปลง โดยอายุความ
ส่วนที่โจทก์อ้างว่าโจทก์ซื้อที่ดินอีก 1 แปลง จากนางลี่ เมื่อปี 2520 แต่ไม่มีหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินโจทก์ใช้ทางพิพาทตั้งแต่ปี 2520 ครบ 10 ปี ทางพิพาทตกเป็นทางภารจำยอมแล้ว ก็เป็นการนำสืบเพื่อให้เห็นว่าทางพิพาทตกเป็นทางภารจำยอมเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินแปลงที่โจทก์ซื้อมาจากนางลี่ มิใช่โจทก์ใช้ทางพิพาทเพื่อประโยชน์แก่ที่ดินตามเอกสารหมาย จ.3และ จ.4 จึงเป็นการนำสืบนอกคำฟ้องฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share