คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 567/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เพียงไปสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคารว่า บัญชีของจำเลยมีเงินพอจ่ายตามเช็คพิพาทหรือไม่ โดยโจทก์มิได้ยื่นเช็คพิพาทต่อธนาคารเพื่อเรียกเก็บเงินยังถือไม่ได้ว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาทในวันนั้น ความผิดของจำเลยจึงยังไม่เกิดขึ้น แต่จะเป็นความผิดในวันที่โจทก์นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงินภายหลังและธนาคารแจ้งการปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คต่อโจทก์ ซึ่งนับแต่วันดังกล่าวจนถึงวันที่โจทก์ฟ้องยังไม่ครบ 3 เดือน คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีมีมูลจึงมีคำสั่งให้ประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า เมื่อประมาณต้นเดือนธันวาคม ๒๕๒๖ จำเลยสั่งจ่ายเช็คพิพาทให้โจทก์ เป็นเช็คธนาคารกสิกรไทย สาขาเลย จำนวนเงิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท ลงวันที่ ๗ ธันวาคม๒๕๒๖ โจทก์นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงินเมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม๒๕๒๗ ปรากฏว่าธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน แจ้งว่า ลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายไม่เหมือนตัวอย่างที่ให้ไว้ ปัญหาจะต้องวินิจฉัยชั้นนี้มีว่า การที่เช็คพิพาทถึงกำหนดชำระเงินเมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๒๖ ในวันดังกล่าวโจทก์ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารตามเช็คเพื่อสอบถามเงินตามเช็คพิพาทด้วยตนเอง เจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งว่าเงินในบัญชีของจำเลยมีไม่พอจ่าย ต่อมาวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๒๗ โจทก์จึงนำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงินจากธนาคาร ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาทในวันนั้น โจทก์นำคดีนี้มาฟ้องในวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๒๗ คดีโจทก์จะขาดอายุความหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความว่าเมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๒๖ โจทก์เพียงไปสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคารว่า บัญชีของจำเลยมีเงินพอจ่ายตามเช็คพิพาทหรือไม่เท่านั้น โดยโจทก์มิได้ยื่นเช็คพิพาทต่อธนาคารเพื่อเรียกเก็บเงิน ยังถือไม่ได้ว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาทในวันนั้น ความผิดเกี่ยวกับการใช้เช็คเกิดขึ้นและเริ่มนับอายุความต่อเมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค ดังนั้น ความผิดของจำเลยจึงยังไม่เกิดขึ้นในวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๒๖ แต่เพิ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๒๗ อันเป็นวันที่โจทก์นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงิน และธนาคารแจ้งการปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คพิพาทต่อโจทก์ดังที่ปรากฏหลักฐานตามเช็คและใบคืนเช็คโจทก์ฟ้องคดีนี้ในวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๒๗ ซึ่งยังไม่ครบ ๓ เดือน นับแต่วันที่ธนาคารแจ้งอันถือว่าเป็นวันที่โจทก์รู้เรื่องความผิด และรู้ตัวผู้กระทำความผิด คดีโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๖
พิพากษายืน.

Share