แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยกับพวกมาด้วยกันและทำร้ายผู้เสียหายในลักษณะที่เป็นการช่วยกันทำร้าย ถือได้ว่าจำเลยกับพวกมีเจตนาร่วมกันทำร้ายผู้เสียหาย ไม้ไผ่ที่จำเลยใช้และจอบที่ ย. พวกของจำเลยใช้ตีทำร้ายผู้เสียหายมีขนาดใหญ่และตีหลายครั้ง ทั้งตีที่ศีรษะอันเป็นอวัยวะสำคัญ ซึ่งอาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้โดยง่าย ประกอบกับก่อนที่จำเลยจะหยุดตีทำร้าย จำเลยได้พูดว่าตายแล้วพอ หยุดแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกอีก 2 คน ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้ายนายบุญสม คล้ายสกุล ผู้เสียหายจนล้มลง แล้วร่วมกันใช้ไม้ไผ่ยาว1 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 นิ้วครึ่ง และจอบด้ามไม้ไผ่ยาวประมาณ 1 เมตร เป็นอาวุธตีประทุษร้ายร่างกายผู้เสียหายบริเวณที่ศีรษะและลำตัวอย่างแรงหลายครั้งโดยเจตนาฆ่า แต่ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตาย เพียงได้รับอันตรายสาหัส ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 83
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 83 ให้ลงโทษจำคุก 10 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุจำเลยกับนายยงและนายพัดได้ทำร้ายผู้เสียหายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยมีว่า จำเลยร่วมกับนายยงหรือนายฟัดทำร้ายผู้เสียหายหรือไม่และจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายหรือไม่ แม้ตามคำเบิกความของพยานโจทก์จะไม่ปรากฏว่าจำเลยกับนายยงและนายพัดได้นัดแนะกันมาก่อนว่าจะร่วมกันทำร้ายผู้เสียหายแต่การกระทำของจำเลยกับพวกที่มาด้วยกันและทำร้ายผู้เสียหายในลักษณะที่เป็นการช่วยกันทำร้าย ถือได้ว่าจำเลยกับพวกมีเจตนาร่วมกันทำร้ายผู้เสียหาย ไม้ไผ่ที่จำเลยใช้และจอบที่นายยงใช้ตีทำร้ายผู้เสียหายมีขนาดใหญ่และตีหลายครั้ง ทั้งตีที่ศีรษะอันเป็นอวัยวะสำคัญ ซึ่งอาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้โดยง่ายประกอบกับก่อนที่จำเลยจะหยุดตีทำร้าย จำเลยได้พูดว่าตายแล้ว พอหยุด เป็นการแสดงเจตนาของจำเลยว่าต้องการจะให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามฟ้อง
พิพากษายืน.