คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5647/2533

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยอายุ 17 ปี ต้อนฝูงโคไปตามทาง ผู้ตายอายุ 43 ปีรูปร่างใหญ่กว่าจำเลย ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านไปไม่ได้เพราะฝูงโคเดินเกะกะ จึงด่าและหาว่าจำเลยกลั่นแกล้ง ผู้ตายจอดรถจักรยานยนต์แล้วเข้ามาตบหน้าจำเลย 4 ที จำเลยถอยหนี ผู้ตายเข้ามาจะตบซ้ำ จำเลยจึงชักมีดปลายแหลมออกมาและพูดห้ามอย่าเข้ามาแต่ผู้ตายยังเข้ามาเตะจำเลยที่ลำตัว 2 ที กับเข้าแย่งมีดได้แล้วแทงจำเลยที่บริเวณหน้าอกซ้าย 1 ที ถือเป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย จำเลยแย่งมีดจากผู้ตายคืนมาแล้วแทงผู้ตายหลายที แต่มิได้เลือกว่ามีดจะถูกบริเวณใดของร่างกายและแทงไปเพื่อหยุดยั้งการทำร้ายของผู้ตาย เป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288และริบมีดของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเหตุบันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 72จำเลยอายุ 17 ปี ลดมาตราส่วนโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา75 จำคุก 4 ปี ริบมีดของกลาง
โจทก์ร่วมและจำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง คืนมีดของกลางให้จำเลย
โจทก์และโจทก์ร่วมฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าขณะที่จำเลยต้อนฝูงโคกลับบ้านมาตามทาง ผู้ตายขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านไปไม่ได้ เพราะฝูงโคเดินเกะกะตามทาง ผู้ตายเกิดอารมณ์เสียจึงได้ด่าจำเลยด้วยถ้อยคำหยาบคาย และหาว่ากลั่นแกล้งผู้ตาย ผู้ตายจอดรถจักรยานยนต์แล้วเข้ามาตบหน้าจำเลย 4 ที จำเลยว่า ไม่ได้แกล้งมาตบทำไม และถอยหนีผู้ตายเข้ามาจะตบซ้ำอีก จำเลยจึงชักมีดปลายแหลมซึ่งเป็นมีดที่ใช้ตัดไม้ออกมาและพูดห้ามอย่าเข้ามา แต่ผู้ตายยังเข้ามาเตะจำเลยที่ลำตัว 2 ที จำเลยล้มลงและลุกขึ้น ผู้ตายเข้าแย่งมีดได้แล้วแทงถูกจำเลยที่บริเวณหน้าอกซ้าย 1 ทีมีบาดแผล ขณะนั้นผู้ตายยังจับแขนจำเลยอยู่ จำเลยจึงแย่งมีดจากผู้ตายคืนมาแล้วแทงผู้ตาย ผู้ตายได้รับบาดแผลหลายแห่ง ที่ศีรษะด้านบน 1 แผลหนังศีรษะเปิดเป็นวงกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 เซนติเมตรบริเวณใต้หูขวา 1 แผล บริเวณกลางหน้าอก 2 แผล บริเวณใต้ชายโครง3 แผล บริเวณต้นขาซ้ายด้านหน้า 1 แผล และมีล้ำไส้ไหลออกมากองที่หน้าท้อง บาดแผลดังกล่าวเกิดขณะชุลมุนแย่งมีดกันมิได้เลือกว่ามีดจะถูกบริเวณส่วนใดของร่างกาย ส่วนบาดแผลที่ชายโครงและที่ท้องมีไส้ไหลออกมาน่าจะเกิดเมื่อจำเลยแย่งมีดได้แล้วแทงผู้ตายขณะกอดปล้ำกัน และวินิจฉัยว่าผู้ตายอายขุ 43 ปี มีศักดิ์เป็นลุงจำเลย และมีรูปร่างใหญ่กว่าจำเลยซึ่งมีอายุเพียง 17 ปี ผู้ตายเข้ามาตบหน้าจำเลย 4 ที จำเลยชักมีดขู่แต่ผู้ตายเข้ามาเตะจำเลยอีก 2 ที จนจำเลยล้มลงแล้วยังเข้ามาแย่งมีดได้แล้วแทงจำเลยถูกหน้าอกซ้ายใต้ราวนมซึ่งเป็นบริเวณที่สำคัญ 1 ที เป็นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย แม้ว่าจำเลยจะแทงผู้ตายในขณะนั้นหลายครั้ง ก็กระทำไปเพื่อหยุดยั้งการทำร้ายของผู้ตาย จึงเป็นการป้องกันสิทธิของตนพอสมควรแก่เหตุการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันโดยชอบ
พิพากษายืน.

Share