แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
เมื่อศาลนัดสืบพยานโจทก์แล้ว ถึงวันนัดได้มีการเลื่อนวันนัดออกไป และมีการเลื่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ออกไปอีกหลายครั้ง โดยไม่มีการสืบพยานโจทก์เลย จนกระทั่งได้มีการสืบพยานโจทก์ครั้งแรกในวันที่ 18 มีนาคม 2529 ถือได้ว่าวันดังกล่าวเป็นวันสืบพยานจำเลยไม่มาศาล ศาลมีคำสั่งว่าจำเลยขาดนัดพิจารณา จึงชอบด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 202 แล้ว ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้ทนายความถอนตัวได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าตัวความได้แต่งตั้งทนายคนใหม่เข้ามาแล้วหรือไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสี่ให้ชำระหนี้ตามสัญญา จำเลยทั้งสี่แต่งตั้งทนายความต่อสู้คดี ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์นำสืบก่อนถึงวันนัดได้มีการเลื่อนวันนัดออกไปหลายครั้ง ต่อมาทนายจำเลยทั้งสี่ยื่นคำร้องขอถอนตัวจากการเป็นทนาย จำเลยที่ 1 ที่ 2 คัดค้านศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยทั้งสี่ทราบคำขอถอนตัวของทนายแล้วอนุญาตให้ทนายจำเลยถอนตัวได้ ให้จำเลยแต่งทนายเข้ามาใหม่ ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ ฝ่ายจำเลยมีเพียงตัวจำเลยที่ 4 และทนายจำเลยที่ 3 ที่ 4 มาศาล ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2ขาดนัดพิจารณา แล้วทำการสืบพยานโจทก์ จำเลยที่ 3 ที่ 4 แถลงไม่ติดใจสืบพยาน ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสี่ชำระหนี้แก่โจทก์ตามฟ้อง จำเลยที่ 1 ที่ 2 อุทธรณ์ว่า ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ขาดนัด ขอให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นทำการพิจารณาคดีใหม่ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกาว่า กรณีที่มีการคัดค้านการถอนทนาย ศาลจะอนุญาตให้ถอนทนายได้ต่อเมื่อจำเลยที่ 1 ที่ 2 แต่งทนายเข้ามาก่อน และที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ขาดนัดนั้น เป็นการมิชอบ เพราะวันดังกล่าวมิใช่เป็นวันนัดครั้งแรกนั้น เห็นว่าคดีนี้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้รับหมายนัดของศาลชั้นต้นแจ้งวันนัดสืบพยานโจทก์ พร้อมทั้งเรื่องทนายจำเลยถอนตัวตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2529 ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งอนุญาตให้ทนายจำเลยถอนตัวในวันที่ 10 มีนาคมปีเดียวกันถือได้ว่าเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ถูกต้องแล้ว โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้แต่งตั้งทนายเข้ามาก่อนวันศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ทนายคนเดิมขอถอนตัวหรือไม่แต่อย่างใด อนึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้นได้นัดสืบพยานโจทก์นัดแรกเมื่อวันที่ 29 มกราคม2529 แต่ถึงวันนัดได้มีการเลื่อนวันนัดออกไป และมีการเลื่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ออกไปอีกหลายครั้งโดยไม่มีการสืบพยานโจทก์เลยจนกระทั่งได้มีการสืบพยานโจทก์ครั้งแรกในวันที่ 18 มีนาคม 2529ฉะนั้นจึงถือได้ว่าวันสืบพยานคดีนี้คือวันที่ 18 มีนาคม 2529นั่นเอง เมื่อจำเลยที่ 1 ที่ 2 ไม่มาศาลและศาลได้มีคำสั่งให้จำเลยที่ 1 ที่ 2 ขาดนัดพิจารณา จึงชอบด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 202 แล้ว ฎีกาจำเลยที่ 1ที่ 2 ฟังไม่ขึ้นทุกข้อ”
พิพากษายืน