แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำซัดระหว่างคนร้ายด้วยกัน จะฟังมาประกอบคดีในศาลใช้ยันแก่จำเลยหาได้ไม่ จะใช้ยันเป็นพยานหลักฐานได้ก็เฉพาะใช้ยันตัวผู้ให้การโดยเฉพาะตัว (อ้างฎีกาที่ 758/2487, 944/2500)
เมื่อพิเคราะห์ถึง อายุ ประวัติ ความประพฤติและพฤติการณ์ของจำเลยเกี่ยวกับคดีนี้แล้ว ศาลจะวางเงื่อนไขเกี่ยวกับความประพฤติของจำเลยไว้เพื่อสวัสดิภาพและอนาคตของจำเลยเองตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 มาตรา 64 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2506 มาตรา 14 ก็ได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกร่วมกันใช้มีดแทงทำร้ายร่างกายนายทวีศักดิ์ ปัญญาพาณิชกุล โดยมีเจตนาฆ่า และแทงทำร้ายร่างกายนายชาญศักดิ์ แซ่อึ้ง จนเกิดอันตราย ได้รับบาดเจ็บตรงสีข้าง ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘, ๒๙๕, ๘๓, ๙๑
ศาลคดีเด็กและเยาวชนเห็นว่า หลักฐานพยานโจทก์ยังไม่ได้ความแน่ชัดว่าจำเลยร่วมกระทำผิด พิพากษายกฟ้องโจทก์ แต่พิเคราะห์ถึงประวัติ ความประพฤติของจำเลย และพฤติการณ์ของจำเลยเกี่ยวกับคดีนี้แล้ว ให้วางเงื่อนไขคุมประพฤติจำเลยไว้ ห้ามจำเลยเข้าไปในบาร์หรือคลับกลางคืนที่จำหน่ายสุรา มีการเต้นรำหรือสถานที่อื่นที่คล้ายคลึงกัน มีกำหนด ๒ ปี และให้จำเลยมารายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก ๆ ๓ เดือนต่อครั้ง มีกำหนด ๑ ปี
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แผนกคดีเด็กและเยาวชนเชื่อว่าจำเลยร่วมกับนายไพโรจน์และพรรคพวกร่วมกันฆ่าและทำร้ายจริง พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘ และ ๒๙๕ ให้ลงโทษตามมาตรา ๒๘๘ จำคุกจำเลย ๒๐ ปี ลดมาตราส่วนโทษลงกึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๑๐ ปี ให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นการส่งตัวจำเลยไปยังสถานพินิจและคุ้มครองเด็กกลางมีกำหนดไม่ต่ำกว่า ๖ ปี แต่ไม่เกินกว่าอายุจำเลยครบยี่สิบสี่ปีบริบูรณ์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คำให้การชั้นสอบสวนของนายไพโรจน์และนายพงษ์เพชรเป็นคำให้การชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งไม่จำต้องกล่าวต่อหน้าจำเลย ทั้งเป็นคำซัดระหว่างคนร้ายด้วยกัน จะฟังมาประกอบคดีในศาลใช้ยันแก่จำเลยหาได้ไม่ จะใช้ยันเป็นพยานหลักฐานได้ก็เฉพาะใช้ยันผู้ให้การโดยเฉพาะตัว เรื่องทำนองนี้ศาลฎีกาได้วินิจฉัยไว้ตามฎีกาที่ ๗๕๘/๒๔๘๗, ๙๔๔/๒๕๐๐ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาเชื่อว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องโจทก์ ศาลฎีกาแผนกคดีเด็กและเยาวชนยังไม่เห็นพ้องด้วย เมื่อพิจารณารายงานแสดงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับจำเลยของพนักงานคุมประพฤติ โดยพิเคราะห์ถึง อายุ ประวัติ ความประพฤติและพฤติการณ์ของจำเลยเกี่ยวกับคดีนี้แล้ว เห็นควรวางเงื่อนไขเกี่ยวกับความประพฤติของจำเลยไว้เพื่อสวัสดิภาพและอนาคตของจำเลยเอง ตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. ๒๔๙๔ มาตรา ๖๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๐๖ มาตรา ๑๔ ซึ่งเมื่อพิจารณาเงื่อนไขที่ศาลชั้นต้นวางไว้นั้น เห็นว่าเป็นการสมควรและเหมาะสมแล้ว
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แผนกคดีเด็กและเยาวชน ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.