แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อคดียังเป็นที่โต้เถียงกันอยู่ว่าสินค้าของกลางเป็นของที่นำเข้ามาจากต่างประเทศอันจะต้องเสียภาษีศุลกากรหรือว่าเป็นของที่ผลิตขึ้นในประเทศ โจทก์ย่อมมีหน้าที่นำสืบให้ได้ความก่อน ถ้าได้ความว่าเป็นของที่นำเข้ามาจากต่างประเทศอันจะต้องเสียภาษีแล้ว จึงจะเป็นหน้าที่ของจำเลยตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 100 ที่จะต้องพิสูจน์ต่อไปว่าได้นำเข้ามาโดยถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ซื้อ รับไว้ ช่วยซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปเสียซึ่งสินค้าที่ผลิตจากต่างประเทศ คือ กระเทียมแห้ง ๒๐ กระสอบ หนัก ๑,๓๕๐ กิโลกรัม บรรทุกรถยนต์มาจากตำบลแม่คำ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย จะนำไปอำเภอพาน โดยรู้อยู่ว่าเป็นสินค้าที่มีผู้ลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากรข้อห้ามข้อจำกัด ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๔๖๙ มาตรา ๒๗ ทวิ ฯลฯ
จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้ว่าจำเลยให้ญาติซื้อในตลาดแม่คำ จะเอาไปทำพันธุ์
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า นอกจากพยานหลักฐานของโจทก์แล้ว ตามมาตรา ๑๐๐ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๔๖๙ ท่านว่าหน้าที่พิสูจน์ตกอยู่แก่จำเลย แต่จำเลยนี้พิสูจน์ไม่ได้ า จึงต้องฟังว่าของกลางรายนี้เป็นสินค้าที่มีกำเนิดในต่างประเทศ ยังไม่ได้เสียภาษีจริง และฟังได้ว่าจำเลยได้บังอาจซื้อ รับไว้ ช่วยซ่อนเร้น ช่วยพาเอาไปซึ่งของกลางรายนี้ โดยรู้ว่าเป็นสินค้าที่มีผู้ลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงอากร ข้อห้ามข้อจำกัด ตามฟ้อง พิพากษาลงโทษปรับจำเลยตามพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ๑๓) พ.ศ. ๒๔๙๙ มาตรา ๔ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๔๘๒ มาตรา ๑๗
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มาตรา ๑๐๐ ดังกล่าวนั้น ใช้สำหรับกรณีที่ได้ความแล้วว่าของนั้นเป็นของที่ต้องเสียภาษีศุลกากรหรือจะต้องริบต้องยึดตามพระราชบัญญัติศุลกากร แต่กระเทียมในคดีนี้ยังเป็นที่โต้เถียงกันอยู่ว่าเป็นของที่นำเข้ามาจากต่างประเทศอันจะต้องเสียภาษีศุลกากร หรือเป็นของที่ผลิตขึ้นในประเทศซึ่งไม่อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติศุลกากร ความข้อนี้โจทก์ต้องสืบให้ได้ความก่อน ถ้าได้ความว่าเป็๋นของที่นำเข้ามาจากต่างประเทศอันจะต้องเสียภาษีแล้ว จึงจะเป็นหน้าที่ของจำเลยพิสูจน์ต่อไปว่าของนั้นได้นำเข้ามาโดยถูกต้องตามกฎหมายแล้ว เมื่อวินิจฉัยข้อเท็จจริงด้วยแล้ว ศาลฎีกาพิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามศาลชั้นต้น