คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5372/2557

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำฟ้องโจทก์อ้างสิทธิที่เกิดขึ้นตามสัญญาประกันภัยระหว่างโจทก์กับ ศ. ผู้เอาประกันภัย จำเลยให้การต่อสู้ว่า ศ. มิได้เป็นเจ้าของ ผู้ครอบครองใช้ประโยชน์ หรือเป็นผู้มีส่วนได้เสียในรถยนต์คันที่เอาประกันภัยกับโจทก์ ซึ่งเป็นคำให้การที่ชัดแจ้งปฏิเสธว่าสัญญาประกันภัยระหว่างโจทก์กับ ศ. ไม่มีผลผูกพันตาม ป.พ.พ. มาตรา 863 ถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธฟ้องของโจทก์โดยมิได้อ้างข้อเท็จจริงขึ้นใหม่เพื่อให้พ้นความรับผิด เช่นนี้ เมื่อโจทก์กล่าวอ้าง โจทก์จึงมีภาระในการพิสูจน์ หาใช่ภาระการพิสูจน์ตกอยู่แก่จำเลยไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 35,086 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากต้นเงิน 32,870.90บาท นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจวินิจฉัยว่า มีปัญหาข้อกฎหมายต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า ตามคำให้การของจำเลยทำให้ภาระการพิสูจน์ว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องตกอยู่แก่จำเลยหรือไม่ เห็นว่า โจทก์บรรยายฟ้องกล่าวอ้างว่าโจทก์รับประกันภัยรถยนต์หมายเลขทะเบียน ศษ 3987 กรุงเทพมหานคร จากนายเศกพล ต่อมารถยนต์คันดังกล่าวถูกรถยนต์ที่จำเลยรับประกันภัยเฉี่ยวชนจนได้รับความเสียหาย โจทก์ซ่อมแซมรถยนต์เสียค่าใช้จ่ายไปจึงรับช่วงสิทธิจากผู้เอาประกันภัยมาฟ้องจำเลย คำฟ้องโจทก์จึงเป็นการอ้างสิทธิที่เกิดขึ้นตามสัญญาประกันภัยระหว่างโจทก์กับนายเศกพลผู้เอาประกันภัย จำเลยให้การต่อสู้ว่านายเศกพลมิได้เป็นเจ้าของ ผู้ครอบครองใช้ประโยชน์หรือเป็นผู้มีส่วนได้เสียในรถยนต์คันเกิดเหตุที่มาเอาประกันภัยกับโจทก์ ซึ่งเป็นคำให้การที่ชัดแจ้งปฏิเสธว่าสัญญาประกันภัยระหว่างโจทก์กับนายเศกพลไม่มีผลผูกพันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 863 ถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธฟ้องของโจทก์โดยมิได้อ้างข้อเท็จจริงขึ้นใหม่เพื่อให้พ้นความรับผิด เช่นนี้ เมื่อโจทก์กล่าวอ้าง โจทก์จึงมีภาระในการพิสูจน์ หาใช่ภาระการพิสูจน์ตกอยู่แก่จำเลยไม่ อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นนี้ให้เป็นพับ

Share