คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 536/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์มิได้บรรยายฟ้องแต่เพียงว่า เด็กทั้งสามเป็นบุตรนายหร่ำสามีโจทก์ผู้วายชนม์ไปแล้ว แต่หากได้บรรยายไว้ชัดแจ้งด้วยว่าเด็กทั้งสามซึ่งเกิดแต่นายหร่ำผู้วายชนม์เป็นทายาทโดยธรรมมีสิทธิสืบมรดกของนายฉิม นางแสงตามลำดับสายตามบัญชีเครือญาติท้ายฟ้อง และในบัญชีเครือญาติก็ทำเครื่องหมายไว้ที่ท้ายชื่อโจทก์ซึ่งตรงกับเครื่องหมายที่หมายเหตุข้างล่างนั้นว่า ‘ฯลฯสมรสภายหลังเมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และไม่ได้จดทะเบียนสมรส’ ดังนี้ ย่อมแสดงอยู่ในตัวแล้วว่าโจทก์ประสงค์จะนำสืบว่าผู้เยาว์เหล่านั้นเป็นทายาทโดยธรรมและมีสิทธิสืบมรดกของนายฉิม นางแสงตามลำดับสายในบัญชีเครือญาติได้โดยเหตุผลประการใด เช่นนำสืบว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย ตามนัยมาตรา 1524,1526 หรือ1529(5) หรือเป็นบุตรที่บิดาได้รับรองแล้ว ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้สืบสันดานเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของนายหร่ำตามมาตรา 1627 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งมีสิทธิสืบมรดกของนายฉิมนางแสงตามลำดับเครือญาติได้ตามมาตรา 1629(1) และที่โจทก์แถลงต่อศาลชั้นต้นว่าผู้เยาว์ดังกล่าวไม่ใช่บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายหร่ำนั้นก็แถลงไปตามเหตุที่ว่านายหร่ำกับนางเปรมโจทก์ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันดังที่หมายเหตุไว้ในบัญชีเครือญาติแล้วนั่นเองหาใช่แถลงเพื่อสละสิทธิที่จะนำสืบข้อเท็จจริงให้ได้ความตามนัยแห่งกฎหมายดังกล่าวไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นมารดาผู้ใช้อำนาจปกครองเด็กชายเรียม เด็กหญิงริน เด็กชายประยงค์ ซึ่งเกิดแต่นายหร่ำสามีผู้วายชนม์แล้วเด็กทั้งสามเป็นทายาทโดยธรรมมีสิทธิสืบมรดกของนายฉิม นางแสงตามลำดับปรากฏตามบัญชีเครือญาติท้ายฟ้อง ที่นาโฉนดที่ 8206 เนื้อที่ 21 ไร่ ภายในอาณาเขตเส้นสีแดงตกทอดทางมรดกแก่นายหร่ำสามีโจทก์ สามีโจทก์ตาย ที่ดินดังกล่าวตกได้แก่บุตรโจทก์ทั้งสามจำเลยที่ 1 ได้แสดงหลักฐานเท็จเพื่อให้เจ้าพนักงานฯ โอนชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ทางทะเบียนจากนายฉิม นางแสงมาเป็นชื่อจำเลยที่ 1 เจ้าพนักงานหลงเชื่อจึงจัดการโอนให้จำเลยที่ 1 ไปทั้งโฉนด โดยโอนส่วนที่เป็นของบุตรโจทก์ไปด้วย ต่อมาจำเลยที่ 1 จัดการจดทะเบียนสิทธิให้กับบุตรของตนคือ จำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 ร่วมด้วยที่ดินโฉนดนี้ตามอาณาเขตเส้นสีแดง เนื้อที่ 21 ไร่จึงยังเป็นของโจทก์อยู่ ขอให้พิพากษาเพิกถอนการโอนที่ดินโฉนดนี้ เฉพาะส่วนที่เป็นของบุตรโจทก์ตามอาณาเขตสีแดง เนื้อที่ 21 ไร่ จึงยังเป็นของโจทก์อยู่ ขอให้พิพากษาเพิกถอนการโอนที่ดินโฉนดนี้เฉพาะส่วนที่เป็นของบุตรโจทก์ตามอาณาเขตสีแดง เนื้อที่ 21 ไร่ ขอให้สั่งถอนชื่อจำเลยทั้ง 4 คนออกจากโฉนดที่ดินแปลงนี้ เฉพาะส่วนที่เป็นของบุตรโจทก์ และจดชื่อบุตรโจทก์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิร่วมกันต่อไป ฯลฯ

จำเลยทั้ง 4 ให้การว่า ที่ดินโฉนดที่ 8206 ทั้งแปลง นายฉิมนางแสงยกให้แก่นายร่มสามีจำเลยที่ 1 ผู้เดียว นายร่มครอบครองโดยสงบเจตนาเป็นเจ้าของมาเกินกว่า 10 ปี นายร่มตาย จำเลยที่ 1 ครอบครองที่ดินโฉนดที่ 8206 มาโดยความสงบเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตลอดมา จำเลยที่ 1 จัดการถอนชื่อนายฉิม นางแสงออกจากโฉนดแล้วใส่ชื่อจำเลยเป็นเจ้าของจำเลยที่ 1 ให้จำเลยที่ 2, 3, 4 ลงชื่อในโฉนดร่วมด้วย ฟ้องโจทก์ขาดอายุความมรดก ฯลฯ

ศาลชั้นต้นสอบถามข้อเท็จจริงโจทก์ โจทก์แถลงว่าเด็กทั้งสามไม่ใช่บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายหร่ำ ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้แล้วให้งดสืบพยานโจทก์ เห็นว่า เด็กทั้งสามไม่ใช่บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายหร่ำไม่มีสิทธิรับมรดกของนายหร่ำ ฯลฯ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานโจทก์ต่อไป แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปความ

จำเลยทั้ง 4 คนฎีกา

จำเลยฎีกาว่า หากโจทก์มีความประสงค์จะนำสืบว่าเด็กทั้งสามเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1524,1529 ก็จะต้องแถลงข้อความที่ประสงค์จะนำสืบไว้ให้ชัดแจ้งหรือมิฉะนั้นก็จะต้องบรรยายข้อความละเอียดไว้ในคำฟ้อง ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์มิได้สละสิทธิที่จะสืบเช่นนั้น เพราะโจทก์มิได้บรรยายฟ้องแต่เพียงว่าเด็กทั้งสามเป็นบุตรนายหร่ำ แต่หากบรรยายฟ้องไว้ชัดแจ้งด้วยว่า เด็กผู้เยาว์ทั้งสามคนซึ่งเกิดแต่นายหร่ำเป็นทายาทโดยธรรม มีสิทธิสืบมรดกของนายฉิม นางแสงตามลำดับสายตามบัญชีเครือญาติท้ายฟ้อง และในบัญชีเครือญาติก็ได้ทำเครื่องหมายไว้ที่ท้ายชื่อนางเปรย ซึ่งตรงกับเครื่องหมายที่หมายเหตุข้างล่างนั้นว่า” ฯลฯ สมรสภายหลังเมื่อใช้ประมวลกฎหมายแพ่งฯ และไม่ได้จดทะเบียนสมรส” ดังนี้ ย่อมแสดงอยู่ในตัวแล้วว่าโจทก์ประสงค์จะนำสืบว่าผู้เยาว์เหล่านั้นเป็นทายาทโดยธรรม และมีสิทธิสืบมรดกของนายฉิมนางแสงตามลำดับสายในบัญชีเครือญาติได้โดยเหตุผลประการใดเช่น นำสืบว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายตามนัยแห่งมาตรา 1525, 1526 หรือ 1529(5) หรือเป็นบุตรที่บิดาได้รับรองแล้ว ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้สืบสันดานเหมือนกับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของนายหร่ำตาม มาตรา 1627 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งมีสิทธิสืบมรดกของนายฉิม นางแสงตามลำดับเครือญาติได้ตามมาตรา 1629(1) แห่งประมวลกฎหมายเดียวกัน ดังนี้เป็นต้น และที่โจทก์แถลงต่อศาลชั้นต้นว่าผู้เยาว์ดังกล่าวไม่ใช่บุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายหร่ำนั้นก็แถลงไปตามเหตุที่ว่า นายหร่ำกับนางเปรยโจทก์ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันดังที่หมายเหตุไว้ในบัญชีเครือญาติแล้วนั่นเอง หาใช่แถลงเพื่อสละสิทธิที่จะนำสืบข้อเท็จจริงให้ได้ตามนัยแห่งกฎหมายดังกล่าวไม่ ฯลฯ

พิพากษายืน

Share