คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1434/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิด โดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์ชนรถยนต์โจทก์ ด้วยความประมาทขาดความระมัดระวังตามวิสัยและพฤติการณ์ซึ่งผู้ขับขี่รถยนต์จะต้องมี และจำเลยขับรถด้วยความเร็วเกินอัตรา พุ่งเข้าชนท้ายรถของโจทก์เสียหาย เป็นการละเมิดต่อโจทก์ กับระบุความเสียหายว่า ค่าซ่อมรถ 2,000 บาท ค่าพาหนะที่จ่ายระหว่างซ่อมรถ 12 วัน เป็นเงิน 1,200 บาท ค่าเสื่อมราคาของรถ 5,000 บาท ดังนี้ เป็นฟ้องที่สมบูรณ์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยขับรถยนต์ชนรถยนต์ของโจทก์ด้วยความประมาท ทำให้โจทก์เสียหาย ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้ทำละเมิด เป็นความผิดของโจทก์ ค่าเสียหายสูงเกินไป ฟ้องเคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ฟ้องไม่เคลือบคลุม รถโจทก์ถูกรถจำเลยชน เป็นความผิดของจำเลย พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกาเรื่องฟ้องเคลือบคลุมและค่าเสียหาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิด โดยบรรยายฟ้องว่าจำเลยขับรถยนต์ชนรถยนต์โจทก์ด้วยความประมาทขาดความระมัดระวังตามวิสัยและพฤติการณ์ซึ่งผู้ขับขี่รถยนต์จะต้องมี และจำเลยขับรถด้วยความเร็วเกินอัตรา พุ่งเข้าชนท้ายรถของโจทก์เสียหาย เป็นการละเมิดต่อโจทก์ และระบุความเสียหายว่า ค่าซ่อมรถ ๒,๐๐๐ บาท ค่าพาหนะที่จ่ายระหว่างซ่อมรถ ๑๒ วัน เป็นเงิน ๑,๒๐๐ บาท ค่าเสื่อมราคาของรถ ๕,๐๐๐ บาทเห็นว่า เป็นฟ้องสมบูรณ์ไม่เคลือบคลุม เพราะคำฟ้องแสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ และคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้น
พิพากษายืน.

Share