คำสั่งคำร้องที่ 3540/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความว่า จำเลยที่ 2 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วเห็นว่า จำเลยที่ 2มีรถยนต์โดยสารขนาดเล็กบรรทุกผู้โดยสารได้ 19 คน 1 คันซึ่งเอาประกันภัยไว้กับบริษัทสินมั่นคงประกันภัย จำกัดแสดงว่า จำเลยที่ 2 ฐานะดีพอสมควร แม้จำเลยที่ 2 จะประสบอุบัติเหตุต้นขาหัก แต่ก็ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน และสามารถ จ่ายค่ารักษาพยาบาลเป็นจำนวนถึง 29,458 บาทได้ เชื่อว่าจำเลยที่ 2 ยังพอมีเงินเสียค่าธรรมเนียมศาลได้ และไม่ยากจนจริง จึงให้ยกคำร้องของ จำเลยที่ 2 หากจำเลยที่ 2 ประสงค์จะดำเนินคดีต่อไป ให้นำเงินค่าธรรมเนียมมาเสีย ภายใน 15 วัน
จำเลยที่ 2 เห็นว่า รถยนต์โดยสารของจำเลยที่ 2 นั้นยังเป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทไฟแน้นซ์เงินทุนหลักทรัพย์เกียรตินาคินจำกัด ซึ่งจำเลยที่ 2 เป็นผู้เช่าซื้อและต้องผ่อนค่างวดให้กับบริษัทดังกล่าวจนกว่าจะครบตามสัญญา แต่ในระหว่างที่ปฏิบัติตามสัญญาก็ได้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้และหลังจากนั้นแล้วรถของจำเลยที่ 2 ก็ไม่ค่อยได้วิ่ง จึงขาดรายได้ทำให้จำเลยที่ 2ไม่มีเงินไปผ่อนค่างวดให้กับบริษัทดังกล่าวปรากฏตามสำเนาเอกสาร บริษัทเงินทุนท้ายคำร้อง ส่วนจำนวนเงินที่จำเลยที่ 2จ่ายไปในการรักษาพยาบาลนั้นเป็นเงินที่สะสมไว้ก่อนเพื่อนำไว้ ซ่อมแซมรถคันพิพาทให้อยู่ในสภาพดีและวิ่งได้ แต่ยังมิได้ นำเงินจำนวนนั้นไปซ่อมรถก็มาประสบอุบัติเหตุทำให้จำเลยที่ 2 ขาหักต้องได้รับการรักษาทันท่วงที หากไปรักษาที่โรงพยาบาล ของรัฐอาจส่งผลให้อาการของจำเลยที่ 2 หนักขึ้น และคดีของ จำเลยที่ 2 มีเหตุอันสมควรที่จะขึ้นสู่ศาลสูง โปรดมีคำสั่ง ให้จำเลยที่ 2 ฎีกาอย่างคนอนาถาด้วย
หมายเหตุ โจทก์ทั้งสองแถลงคัดค้าน (อันดับ 151)
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงิน595,000 บาท แก่โจทก์ทั้งสอง พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2531 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยที่ 2 ฎีกา พร้อมกับยื่นคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งดังกล่าว (อันดับ 122,121,147)
จำเลยที่ 2 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 149)

คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว จำเลยที่ 2 มีรถยนต์โดยสารขนาดเล็กไว้ทำกิจการรับจ้างบรรทุกผู้โดยสาร เมื่อจำเลยที่ 2 ประสบอุบัติเหตุก็สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลยังโรงพยาบาลเอกชน ได้เชื่อว่าจำเลยที่ 2 ยังมีเงินพอเสียค่าธรรมเนียมศาลได้ และไม่ยากจน จึงให้ยกคำร้อง หากจำเลยที่ 2 ยังติดใจฎีกา ก็ให้จำเลยที่ 2 นำเงินค่าธรรมเนียมมาชำระต่อศาลชั้นต้น ภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันทราบคำสั่งนี้

Share